SET9: ตลาดหลักทรัพย์แถลงมติคณะกรรมการฯ ฉบับที่ 18/2540

พฤหัส ๒๐ มีนาคม ๑๙๙๗ ๑๙:๒๒
กรุงเทพ--20 มี.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นายสุวิชา มิ่งขวัญ โฆษกตลาดหลักทรัพย์ แถลงถึงผลการประชุมคณะกรรม การตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2540 โดยที่ประชุมได้มีมติใน เรื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1. พิจารณาถอนหลักทรัพย์ของบริษัทหลักทรัพย์เอกเอเซีย จำกัด (มหาชน) จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน
คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ได้พิจารณาคำขอให้เพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน โดยสมัครใจของบริษัทหลักทรัพย์เอกเอเซีย จำกัด (มหาชน) (FAS) แล้วเห็นควรอนุมัติ การขอเพิกถอนหลักทรัพย์ของ FAS ได้ตามที่บริษัทขอมา โดยมีเงื่อนไขให้ FAS และผู้จัด ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์จากผู้ถือหุ้นทั่วไปคือบริษัทหลักทรัพย์เอกธำรง จำกัด (มหาชน) (S-ONE) ต้องปฎิบัติก่อนที่ตลาดหลักทรัพย์จะกำหนดวันเพิกถอนหลักทรัพย์ ดังนี้
1. S-ONE ต้องได้รับการผ่อนผันจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์ให้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ได้อีกครั้งภายในรอบระยะเวลา 1 ปี นับแต่วัน ที่พ้นกำหนดการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของ FAS ครั้งก่อน (24 กรกฎาคม - 30 สิงหา คม 2539) ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามความใน ม.255 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ พ.ศ. 2535
2. ให้ S-ONE ซึ่งจัดทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์จากผู้ถือหุ้นทั่วไปของ FAS ตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.ล.ต.กำหนด โดยมีระยะเวลารับซื้อหลักทรัพย์สูงสุดคือ 45 วันทำการ
3. ให้ FAS รายงานผลการเสนอซื้อหลักทรัพย์จากผู้ถือหุ้นทั่วไปของ FAS ภายใน 14 วันนับแต่วันปิดรับซื้อหุ้น
2. ปรับปรุงหลักเกณฑ์การรับหลักทรัพย์ เพื่อให้ตลาดหลักทรัพย์รับบริษัทที่มี ขนาดใหญ่ มีฐานะการเงินและผลการดำเนินงานดี มีสภาพคล่องในการซื้อขายเพียงพอ เพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ดังนี้
1. เกณฑ์ด้านขนาด
ทุนชำระแล้ว มูลค่าตลาด
หลักเกณฑ์เดิม 100 ลบ. 750 ลบ.
หลักเกณฑ์ใหม่ - 3,000 ลบ.
2. เกณฑ์ด้านผลการดำเนินงาน
2.1 ด้านกำไรสุทธิ (ลบ.) ปีที่1 ปีที่2 ปีที่3 รวม
หลักเกณฑ์เดิม >_5 >_20 >_30 >_80 หรือ
+ ---เฉลี่ย 40--- >_110 หรือ
+ + >_40 >_110
หลักเกณฑ์ใหม่ >_20 >_30 >_40 >_110 หรือ
>_10 >_10 >_10 >_150
2.2 ความต่อเนื่องของการดำเนินงาน
หลักเกณฑ์เดิม : บริษัทต้องมีการดำเนินงานภายใต้การจัดการของ
ผู้บริหารส่วนใหญ่ชุดเดียวกันต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 3 ปี
หลักเกณฑ์ใหม่ : บริษัทต้องมีผลการดำเนินงานต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า
5 ปี ภายใต้การจัดการของผู้บริหารส่วนใหญ่เป็น
ชุดเดียวกันต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 3 ปี
3. ยกเลิกหลักเกณฑ์การรับบริษัทจดทะเบียนภูมิภาคและบริษัทที่ยังไม่มี ผลการดำเนินงาน ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายพัฒนาตลาดทุนของภาครัฐที่มุ่งให้ตลาด หลักทรัพย์รับบริษัทที่มีขนาดใหญ่และมีผลการดำเนินงานมาระยะหนึ่งแล้ว สำหรับบริษัทขนาด เล็กและบริษัทที่ไม่มีผลการดำเนินงานก็สามารถเข้าซื้อขายในศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์กรุงเทพ ได้
4. กำหนดแนวทางการรับหลักทรัพย์ ให้ตลาดหลักทรัพย์สามารถผ่อนผัน หลักเกณฑ์การรับหลักทรัพย์ บางประการได้ตามความเหมาะสม เพื่อให้ตลาดหลักทรัพย์มี ความยืดหยุ่นในการรับบริษัทจดทะเบียนที่มีขนาดใหญ่ คุณภาพดีในอุตสาหกรรมที่เป็น อุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศและเป็นที่สนใจของผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศเข้ามา จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้นซึ่งจะเป็นการพัฒนาขีดความสามารถในด้านการแข่งขัน ของตลาดหลักทรัพย์เทียบกับตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาค และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ ลงทุน
ทั้งนี้ ให้ข้อบังคับมีผลบังคับใช้ภายใน 60 วันนับแต่วันประกาศ โดย ตลาดหลักทรัพย์อยู่ระหว่างการจัดทำร่างแก้ไขข้อบังคับ เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการ ก.ล.ต. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนประกาศใช้ต่อไป
3. กำหนดแนวทางดำเนินการสำหรับบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ระหว่างการปรับ ปรุงแก้ไขฐานะการเงินและผลการดำเนินงานเพื่อให้พ้นเกณฑ์อาจถูกเพิกถอนจากการเป็น หลักทรัพย์จดทะเบียน
คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ ได้พิจารณาแนวทางดำเนินการสำหรับบริษัทจด ทะเบียนที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนแล้วเห็นว่า เพื่อให้บริษัท จดทะเบียนที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนหลักทรัพย์ ผู้ถือหุ้นของบริษัทตลอดจนผู้ลงทุนทั่วไปได้ ทราบถึงแนวทางปฎิบัติที่ชัดเจนในการพิจารณาของตลาดหลักทรัพย์ และขั้นตอนดำเนินการ เพื่อขอพ้นเหตุแห่งการเพิกถอนหรือปลดเครื่องหมาย C หรือ SP แล้วแต่กรณีดังนี้
1. เกณฑ์ที่ใช้พิจารณาการพ้นเหตุแห่งการเพิกถอน
1.1 เกณฑ์เชิงปริมาณ
ฐานะการเงินและผลการดำเนินงานจะต้องมีตัวเลขไม่เข้าข่าย
ตามเกณฑ์เพิกถอนหลักทรัพย์ทุกข้อ กล่าวคือ
ก. ไม่ขาดทุนสุทธิ 2 ใน 3 ปีท้าย หรือมีสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิ (NTA)
มากกว่า 60 ล้านบาท และ
ข. ไม่ขาดทุนสุทธิ 3 ใน 4 ปีท้าย หรือมีสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิ (NTA)
มากกว่า 120 ล้านบาท
และ
ค. มีสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิ (NTA) มากกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว
และ
ง. ไม่ขาดทุนสุทธิต่อเนื่องกัน 5 ปี และ
จ. ไม่มีผลขาดทุนสุทธิเป็นจำนวนที่มีนัยสำคัญจนไม่อาจดำรงอยู่ได้
1.2 เกณฑ์เชิงคุณภาพ
ก. ผลการดำเนินงานสอดคล้องกับแผนดำเนินงานตามที่เคยเสนอต่อ ตลาดหลักทรัพย์ หรือต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น กำไรสุทธิที่เกิดขึ้นจริงเป็นไปตามประมาณการที่ แถลงไว้ โดยกำไรสุทธิที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละไตรมาสต่ำกว่าประมาณการไม่เกิน 20% เว้น แต่จะมีเหตุที่เกิดจากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้
ข. มีกำไรที่เกิดจากการดำเนินงานในธุรกิจหลัก และสามารถแสดง ได้ว่าจะมีแนวโน้มการดำเนินงานที่ดีในอนาคต
ค. ต้องสามารถแสดงได้ว่ามีฐานะการเงินมั่นคงและมีเงินทุนหมุน เวียนเพียงพอ
ง. มีผู้บริหารที่มีความตั้งใจจริงในการปรับปรุงการดำเนินงานและ ฐานะการเงินเพื่อให้พ้นเหตุแห่งการเพิกถอนและมีการบริหารงานอย่างต่อเนื่อง
จ. ต้องเป็นที่มั่นใจว่าบริษัทจะไม่เข้าเกณฑ์อาจถูกเพิกถอนในระยะ เวลาอันสั้น โดยพิจารณาจากผลการดำเนินหลังจากบริษัทพ้นเกณฑ์เพิกถอนแล้ว 2 ไตรมาส ซึ่งบริษัทต้องแสดงกำไรจากการดำเนินงานที่มีเสถียรภาพมีแนวโน้มในการเติบโต และไม่มี ปัจจัยที่แสดงความถดถอยของผลการดำเนินงาน
1.3 เหตุการณ์ดังต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นการดำเนินการเพื่อให้พ้นเหตุแห่งการ เพิกถอน
ก. การตีราคาทรัพย์สินเพิ่ม
ข. การลดทุนเพื่อลดขาดทุนสะสม
ค. วิธีการอื่นใดที่ส่งผลให้ยอดขาดทุนสะสมลดลงหรือ NTA (Net Tangible Assets) เพิ่มขึ้นในเชิงตัวเลขที่ปรากฎในงบการเงิน แต่มิได้เป็นการแก้ไข เหตุที่ทำให้ธุรกิจหลักของบริษัทประสบผลขาดทุน
2. ขั้นตอนและวิธีการพิจารณาและการกำหนดเงื่อนไข
2.1 ให้บริษัทจดทะเบียนทั้งที่ขึ้นเครื่องหมาย "C" หรือ "SP" มีหนังสือ ชี้แจง โดยแสดงเหตุผลหรือข้อมูลสนับสนุนที่บริษัทจดทะเบียนเห็นว่าฐานะการเงินและผลการ ดำเนินงานของบริษัทพ้นเกณฑ์อาจถูกเพิกถอน พร้อมนำส่งเอกสารที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด ได้แก่ แบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบ 69-1) ความเห็นผู้สอบบัญชี เกี่ยวกับการประเมินผลระบบการควบคุมภายในบริษัท
2.2 ในการพิจารณาพ้นเกณฑ์แห่งการเพิกถอนให้ตลาดหลักทรัพย์เสนอต่อ คณะอนุกรรมการพิจารณารับและเพิกถอนหลักทรัพย์ และนำเสนอความเห็นให้คณะกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์พิจารณาต่อไป โดยให้นำองค์ประกอบคุณสมบัติการลงคะแนนเสียง และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องมาใช้โดยอนุโลม (ยังมีต่อ)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ