กรุงเทพ--26 ม.ค.--กระทรวงสาธารณสุข
โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี ทำเก๋สอดคลอ้งยุคไอ.เอ็ม.เอฟ. จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ช่วยเหลือประชาชนเสียค่ารักษา ค่ายาครั้งละ 1 บาท เงินที่ได้จัดทำเป็นกองทุนอาหารกลางวันแก่นักเรียน
นายแพทย์ชาติ พิชญางกูร อธิบดีกรมการแพทย์ให้สัมภาษณ์ว่า โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี ได้จัดโครงการหน่วยบาทเดียวสาธารณสุขเคลื่อนที่ ให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขบนหลักการสาธารณสุขมูลฐาน โดยเลือกพื้นที่ที่ประชาชนประสบปัญหาการเดินทางมารักษาพยาบาลลำบาก และมีปัญหาด้านการเงิน ในพื้นที่ที่ใกล้กับโรงพยาบาลฯ เช่น หนองจอก มีนบุรี ลาดกระบัง และพื้นที่ในต่างจังหวัดที่ห่างไกล ทำให้ประชาชนได้รับการดูแลสุขภาพอย่างทั่วถึงในระดับหนึ่งเสริมสร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทำให้อาสาสมัครซึ่งเป็นบุคลากรฝ่ายต่าง ๆ ของโรงพยาบาลมีความรักสามัคคีในหมู่คณะ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม ชุมชน เป็นการสร้างทัศนคติไม่แจกยาฟรี มุ่งเน้นความสำคัญการดูแลสุขภาพบนพื้นฐานสาธารณสุขมูลฐานเพื่อมุ่งหวังให้ประชาชนไทยมีสุขภาพดี
นายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ แพทย์ประจำโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี ซึ่งเป็นหัวหน้าโครงการหน่วยบาทเดียวสาธารณสุขเคลื่อนที่ เปิดเผยว่าการออกหน่วยบาทเดียวสาธารณสุขเคลื่อนที่ มีกำหนดออกปฏิบัติงานเดือนละ 1 ครั้งในวันอาทิตย์ที่ 4 ของเดือนใช้เวลาปฏิบัติงานระหว่าง 8.00-12.00 น. คล้ายกับโรงพยาบาลเล็ก ๆ เคลื่อนที่ นอกจากให้การตรวจรักษา อุดฟัน ถอนฟันแล้ว ยังมีกิจกรรมสันทนาการสุขศึกษาร่วมกับเด็กนักเรียนและประชาชน ในรูปแบบละคร วิดีโอ สไลด์ โปสเตอร์ เล่นเกมส์ แจกรางวัลตอบปัญหาสุขภาพ เป็นต้น ทั้งนี้การจัดกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ ขึ้น กับสภาพพื้นที่ด้วย เพื่อให้ความรู้ในการป้องกันโรค ส่งเสริมสุขภาพ ที่สำคัญเก็บค่าตรวจรักษา คนละ 1 บาท เงินที่ได้รับจากการตรวจรักษาทั้งหมดร่วมกับเงินบริจาคจะมอบให้โรงเรียนที่ไปออกหน่วยเคลื่อนที่ เป็นกองทุนอาหารกลางวันให้กับนักเรียนต่อไป
สำหรับงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากผู้บริหารของโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี โดยจัดกิจกรรมการกุศลต่าง ๆ การปฏิบัติงานแต่ละครั้งเปิดรับสมัครอาสาสมัครมีทั้งแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล และเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องประมาณ 20 คน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่จากฝ่ายต่าง ๆ ของโรงพยาบาล ยาที่ใช้ในการตรวจรักษาก็เป็นยาชนิดเดียวกันของโรงพยาบาล สำหรับผลการดำเนินงานที่ผ่านมาตั้งแต่ มีนาคม 2537 จนถึงพฤศจิกายน 2540 ได้จัดตั้งกองทุนอาหารกลางวันให้กับโรงเรียนต่าง ๆ ไปแล้ว 46 กองทุน เป็นเงินทั้งสิ้น 70,000 บาท--จบ--