ซ้อมแผนรับอุบัติเหตุสารเคมีครั้งแรกของไทย

พฤหัส ๐๓ กรกฎาคม ๑๙๙๗ ๑๘:๓๐
กรุงเทพ--3 ก.ค.--กระทรวงสาธารณสุข
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนเขตนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก 6 จังหวัด ร่วมซ้อมแผนรับอุบัติเหตุจากสารเคมีหรือสารพิษ มีวิธีการช่วยเหลือแตกต่างจากอุบัติเหตุทั่วไป นับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีการซ้อมรับแผนดังกล่าว
นายแพทย์วินัย วิริยกิจจา ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขต 3 เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุข โดยกองสาธารณสุขภูมิภาคและโรงพยาบาลบ้านฉาง จับอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่อง การเตรียมรับอุบัติภัยจากสารเคมีและพิษวิทยา แก่แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จากโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน ใน 6 จังหวัด ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ ปราจีนบุรี และจันทบุรี ที่อยู่ใกล้นิคมอุตสาหกรรมหรือริมทางหลวง จำนวน 150 คน ที่จังหวัดระยอง และมีการซ้อมแผนรับอุบัติภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตราย ครั้งแรกของประเทศไทย เพื่อเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายให้มีความรู้ในด้านพิษวิทยาของสารเคมี ตระหนักถึงความสำคัญในการบริหารจัดการ การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและการประสานงานระดับภูมิภาคและส่วนกลาง เมื่อเกิดเหตุการณ์จริงจะได้ไม่ตระหนก ตกใจ และไม่มีการทำงานซ้ำซ้อน โดยจำลองเหตุการณ์รถบรรทุกสารเคมี (เปอร์ออกไซด์) ชนกับรถโดยสารนักเรียนที่กลับจากทัศนศึกษา ณ สามแยกไฟแดง ตลาดบ้างฉาง อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง มีถังสารเคมีกระเด็นออกมา 3-4 ถัง ต่อมามีกลุ่มควัน และเกิดการระเบิดขึ้น มีนักเรียนและประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงได้รับอันตรายจากสารเคมีดังกล่าว
การเข้าไปช่วยเหลืออุบัติเหตุจากสารเคมีจะแตกต่างจากอุบัติเหตุรถชนโดยสิ้นเชิง สิ่งสำคัญก่อนที่จะเข้าไปช่วยเหลือต้องทราบก่อนว่าเกิดจากสารเคมีหรือวัตถุอันตรายชนิดใด เพื่อจะได้เข้าไปให้การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุได้ถูกต้อง และผู้เข้าไปช่วยเหลือหาทางป้องกันตนเองได้ถูกต้อง เช่น ใส่ชุดป้องกันทั้งร่างกาย สวมเครื่องช่วยหายใจ หรือสวมเครื่องหายใจ และถุงมือกันสารเคมี ทั้งนี้ขึ้นกับสารเคมีแต่ละชนิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการฝึกซ้อม และมีความรู้จะสามารถทราบได้ว่าอุบัติเหตุนั้น ๆ เกิดจากสารชนิดใด โดยดูจากป้ายบอกรหัสและสัญญลักษณ์ในกรอบสี่เหลี่ยมด้านข้างของถึงรถบรรจุสารเคมี ทำให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ที่จะเข้าไปช่วยเหลือทุกฝ่าย ทั้งนี้มีหลักการช่วยเหลือต้องเข้าไปในทิศทางเหนือลม เลี่ยงการสัมผัสไอระเหยของสารนั้น
สำหรับทางการแพทย์เมื่อทราบว่าเกิดจากสารเคมีตัวใด ก็จะค้นหาข้อมูลทั้งจากคู่มือ และจากโปรแกรมสารพิษ เช่น คามิโอ (CAMEO) ซึ่งเป็นโปรแกรมข้อมูลให้รายละเอียดของสารพิษอย่างคร่าว ๆ มีที่อยู่ของโรงงานในเขตนิคมอุตสาหกรรมว่าแต่ละแห่งมีสารเคมีประเภทใด และหมายเลขที่จะติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติม, โปรแกรมอะโลฮ่า (ALOHA) สามารถกำหนดพื้นที่ปลอดภัย โดยเฉพาะโปรแกรมโทม (TOMES) และ ซีซีไอเอส (CCIS) ของโรงพยาบาลรามาธิบดี เป็นโปรแกรมที่ให้รายละเอียดเพื่อประโยชน์ในการเข้าไปช่วยเหลือ การปฐมพยาบาล การรักษาพยาบาล ยาที่ใช้ในการรักษา เป็นต้น ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถประสานขอข้อมูลได้ตลอด 24 ชั่วโมง
การซ้อมแผนรับอุบัติภัยจากสารเคมี ครั้งนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจาก คณะแพทย์ศาสตร์ของศิริราชพยาบาล โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า บริษัทไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ บริษัทปิโตรเคมีแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) รวมทั้งหน่วยงานอื่น ๆ ในอำเภอบ้างฉาง สนับสนุนวิทยากร บุคลากร และอุปกรณ์ในการอบรมและซ้อมแผนฯ--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ