สวช. จัดประกวดสถานศึกษาและชุมชนรวมใจสู้ภัยเศรษฐกิจสนองพระราชดำรัสชิงโล่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

กรุงเทพ--19 ส.ค.--สวช.
สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรมแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย (อ.ส.ม.ท.) กรมการปกครอง กรมประชาสัมพันธ์และธนาคารออมสิน จ้ดโครงการประกวดสถานศึกษาและชุมชนดีเด่นในการรวมใจสู้ภัยเศรษฐกิจ เพื่อคัดเลือกสถานศึกษาและชุมชนที่มีผลงานดีเด่นในการสู้ภัยเศรษฐกิจในระดับอำเภอ จังหวัด เขตการศึกษาและเขตกรุงเทพมหานคร ชิงโล่พระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีพร้อมประกาศเกียรติคุณเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีในสังคม หมดเขต 30 กันยายน 2542 นี้
สถานศึกษาที่จะเข้าประกวดแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ ประเภท ก. ระดับอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประเภท ข. ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ประเภท ค. ระดับสูงกว่ามัธบมศึกษาปีที่ 6 ส่วนชุมชนแบ่งเป็น 1.ชุมขนในส่วนภูมิภาค หมายถึง หมู่บ้านตามกฎหมายลักษณะปกครองท้องที่ 2. ชุมชนใน กรุงเทพมหานคร หมายถึง ชุมชนที่มีจำนวนไมต่ำกว่า 50 หลังคาเรือน และ 3. กลุ่มชุมชนทหาร หมายถึง กลุ่มชุมชนทหารในสังกัดกองบัญชาการทหารสูงสุด
สำหรับกิจกรรมที่ทุกสถานศึกษาและชุมชนจะส่งผลงานเข้าประกวด จะต้องเป็นผลงานที่ปฏิบัติตามโครงการเสมาพัฒนาคุณธรรมตามพระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งทางคณะกรรมการจะถือเป็นเกณฑ์ในการตัดสิน ประกอบด้วย พากเพียรอดทน เสริมสร้างคนดี รู้รักสามัคคี มีน้ำใจ ใฝ่ประหยัด ซื่อสัตย์สุจริต เศรษฐกิจพอเพียง
การส่งผลงานให้แต่ละสถานศึกษาและชุมชนส่งผลงานจำนวน 3 ชุดตามประเด็นที่กำหนดให้ข้างต้น จะพิมพ์ดีดคอมพิวเตอร์หรือเขียนลายมือบรรจงก็ได้ ส่วนภาพถ่ายประกอบให้เขียนคำบรรยายใต้ภาพ รวมแล้วไม่เกิน 40 หน้ากระดาษเอ 4 หากมีวิดีทัศน์ประกอบให้ส่งเพียง 1 ม้วน ความยาวไม่เกิน 30 นาที โดยส่งที่ ส่วนส่งเสริมวัฒนธรรมไทย สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ถนนรัชดาภิเษก ห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10320 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทรศัพท์ 2470013 ต่อ 301-306 ได้ตั้งแต่บัดนี้ จนถึง 30 กันยายน ศกนี้
อนึ่ง การจัดโครงการประกวดสถานศึกษาและชุมชนดีเด่นในการรวมใจสู้ภัยเศรษฐกิจครั้งมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างจิตสำนึกให้เยาวชน ประชาชน และชุมชนตระหนักถึงภาวะที่ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงร่วมใจสู้ภัยเศรษฐกิจเพื่อฟื้นฟูประเทศชาติจากภาวะวิกฤติ และเป็นการสร้างจิตสำนึกให้มีค่านิยมในการใช้ของไทย กินของไทย เที่ยวเมืองไทย ร่วมใจประหยัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปได้มีส่วนร่วม ตลอดจนเห็นความสำคัญในคุณค่าของคุณธรรมตามพระราชดำรัสสและน้อมนำไปปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมต่อไป--จบ--