กรุงเทพ--8 พ.ค.--กระทรวงสาธารณสุข
โรงพยาบาลแกลง จังหวัดระยอง มีความพร้อมในการรองรับผู้ป่วยอุบัติเหตุ รวมทั้งรุกไปให้ความรู้แก่คนงานในโรงงานอตุสาหกรรม เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการทำงาน
นายแพทย์ปรากรม วุฒิพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานรับมอบอาคารตึกสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลแกลง จากคณะสงฆ์ จังหวัดระยองว่า โรงพยาบาลแกลงเป็นโรงพยาบาลขนาด 90 เตียง ในปีงบประมาณ 2540 มีผู้ป่วยนอกมารับบริการเฉลี่ยวันละ 358 ราย ผู้ป่วยในเฉลี่ยวันละ 85 ราย โรคที่พบมากคือโรคระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินอาหาร และอุบัติเหตุ
อำเภอแกลง จังหวัดระยอง เป็นเมืองเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เนื่องจากมีโรงงานอุตสาหกรรมทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่กว่า 80 โรงงาน และเป็นเมืองท่องเที่ยวเมืองหนึ่งของชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก จึงมีผู้ป่วยอุบัติเหตุมารับบริการที่โรงพบาลมากกว่า 10 รายต่อวัน ทางโรงพยาบาลจึงได้มีการพัฒนาความพร้อมทั้งด้านบริการและวิชาการ เพื่อรองรับอุบัติเหตุ ทั้งอุบัติเหตุจราจรและอุบัติเหตุโรงงาน โดยการจัดตั้งคณะกรรมการควบคุมป้องกันอุบัติเหตุอุบัติภัยในระดับอำเภอขึ้น มีนายอำเภอเป็นประธาน เน้นการประสานงานในการให้ความช่วยเหลือกรณีเกิดอุบัติเหตุอุบัติภัยหมู่ ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับอำเภอให้เป็นไปด้วยความคล่องตัว มีการซ้อมแผนให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยระหว่างหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนปีละ 1 ครั้งๆ ละ 2-3 จุด ในส่วนของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมีการอบรมให้ความรู้ ในการช่วยเหลือผู้เจ็บป่วย สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ยงขาดความรู้และทักษะ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ใหม่จะมีการอบรมปีละ 1 ครั้ง
นอกจากการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับผู้ป่วยอุบัติเหตุแล้ว โรงพยาบาลแกลงยังมีการดำเนินงานเชิงรุก เพื่อลดปัญหาจากอุบัติเหตุ โดยการจัดอบรมตัวแทนโรงงานละ 2 คน ให้มีความรู้เกี่ยวกับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น การช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานกรณีเกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งมีการส่งทีมเคลื่อนที่เข้าไปให้ความรู้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ในโรงงานทุกแห่งเกี่ยวกับการระวังตนเอง ในการป้องกันอุบัติเหตุและโรคจากการทำงาน
สำหรับชุมชน ทางโรงพยาบาลแกลง ได้ส่งหน่วยสุขศึกษาเคลื่อนที่ไปให้ความรู้แก่อสม.รวมทั้งประชาชนเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพอนามัยของตนเอง ครอบครัว และชุมชน ร่วมกันสอดส่องดูแลสภาพแวดล้อมที่จะมีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหามีการนำกากของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมหรือขยะที่น่าสงสัยมาทิ้งในบริเวณชุมชน ขอให้อสม.ช่วยเป็นแกนนำประชาชนร้องเรียนต่อผู้รับผิดชอบ ให้รีบดำเนินการแก้ไข--จบ--