บริษัทเงินทุน ธนชาติ เผยผลประกอบการปี 2547 มีกำไร 4,210 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.4%

กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--ธนชาติ
บริษัทเงินทุน ธนชาติ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2547 มีกำไรสุทธิก่อนหักภาษี 4,210 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1,031 ล้านบาท หรือ 32.4% และเมื่อหักภาษีแล้วมีกำไรสุทธิ 2,983 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 11.7% สาเหตุที่กำไรเพิ่มขึ้นอย่างมาก มาจากสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของบริษัทที่ขยายตัวถึง 43.5% ซึ่งทำให้รายได้จากธุรกิจนี้เพิ่มขึ้นถึง 52.6% นอกจากนี้ยังเป็นผลจากการดำเนินงานของบริษัทย่อยบริษัทร่วมที่มีผลประกอบการที่ดี
นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเงินทุน ธนชาติ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2547 บริษัทและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวม 185,044 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2546 จำนวน 10.4% โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของยอดลูกหนี้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นถึง 26,951 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 43.5% สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในปี 2547 มีกำไรก่อนหักภาษี 4,210 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1,031 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 32.4% และเมื่อหักภาษีแล้วมีกำไรสุทธิ 2,983 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 11.7%
สาเหตุที่กำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมาก มาจากการที่สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของบริษัทขยายตัวถึง 43.5% ทำให้รายได้จากธุรกิจนี้เพิ่มขึ้นถึง 52.6% นอกจากนี้แล้วยังมีผลมาจากการดำเนินงานของบริษัทย่อยบริษัทร่วมอันได้แก่ บมจ.ธนาคารธนชาต มีกำไร 551 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.1%,บมจ.หลักทรัพย์ ธนชาติ มีกำไร 292 ล้านบาท ลดลง 23.4%, บลจ.ธนชาติ มีกำไร 65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.1%, บริษัท ธนชาติประกันภัย มีกำไร 60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 402.9%, บริษัท ธนชาติซูริคประกันชีวิต ขาดทุน 71 ล้านบาท ลดลง 181.2%, บริษัท บริหารสินทรัพย์ เอ็นเอฟเอส มีกำไร 283 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 274.5% และบริษัท บริหารสินทรัพย์ แม๊กซ์ มีกำไร 498 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 122.3%
นายศุภเดช ยังเปิดเผยถึงผลการดำเนินงานด้านธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทว่า ณ สิ้นปี 2547 ยอดลูกหนี้สินเชื่อเช่าซื้อมีจำนวน 88,874 ล้านบาท หรือคิดเป็น 68.4% ของยอดเงินให้กู้ยืมทั้งหมดของกลุ่มธนชาติ และเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนที่เท่ากับ 61,923 ล้านบาท ยอดลูกหนี้สินเชื่อเช่าซื้อเพิ่มสูงขึ้นถึง 43.5% และยอดรวมจำนวนรถยนต์ที่บริษัทให้สินเชื่อเช่าซื้อ ณ สิ้นปี 2547 มีจำนวนถึง 297,188 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 107,558 คัน ยังผลให้รายได้ดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อของบริษัท ในปี 2547 เพิ่มขึ้นอย่างมาก--จบ--