กรุงเทพ--25 มี.ค.--กศน.
นายชลอ กองสุทธิ์ใจ อธิบดีกรมการศึกษานอกโรงเรียนเปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวปรากฎในหนังสือพิมพ์ ถึงเรื่องการปรับลดภารกิจตามมาตรการปรับภาคราชการในสภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจนั้น ปรากฎว่าบางประเด็นไม่สอดคล้องกับที่กรมการศึกษานอกโรงเรียนเสนอ และบางประเด็นไม่ชัดเจนเพียงพออันอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้
กรมการศึกษานอกโรงเรียนจึงขอชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้อง ดังนี้
1. งานห้องสมุดประชาชน กศน.เสนอว่าควรทำร่วมกับหน่วยงานอื่นโดยให้องค์กรประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วม มิได้เสนอให้โอนงานดังกล่าวให้ อบต.แต่อย่างใด
2. งานที่เสนอให้ตั้งเป็นหน่วยงานพิเศษ คือ ศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา และศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาโดยมีข้อเสนอว่าควรจะต้องศึกษาความเป็นไปได้ก่อน
3. การเสนอให้ยุบเลิกหรือชะลอการดำเนินการศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทย บริเวณชายแดน 3 แห่ง คือศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนจังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดมุกดาหาร และจังหวัดปัตตานี โดยเดิมมี 8 แห่ง แต่ขอให้ยุบและหลอมรวมเหลือภาคละ 1 แห่ง คือศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนจังหวัดสุรินทร์ รับผิดชอบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนจังหวัดชุมพร รับผิดชอบภาคใต้ ศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนจังหวัดสระแก้ว รับผิดชอบภาคตะวันออก ศูนย์ฝึกวิชาชีพจังหวัดกาญจนบุรี "สามสงฆ์ทรงพระคุณ" รับผิดชอบภาคกลาง ในเรื่องนี้ กศน.ได้พิจารณาทบทวนอีกครั้งหนึ่งเห็นว่า การที่ให้มีการหลอมรวมโดยให้ศูนย์หนึ่งแห่งรับผิดชอบ ในแต่ละภาคนั้น จะมีปัญหาในทางปฎิบัติเพราะพื้นที่ชายแดนแต่ละด้านมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน การให้บริการการศึกษาย่อมแตกต่างกันด้วยและการให้บริการในพื้นที่ที่กว้างมากเกินไปจะทำให้การบริการการศึกษาไม่มีประสิทธิภาพ จึงเห็นควรให้ศูนย์ฝึกฯ ทุกแห่งดำเนินงานต่อไป และให้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพโดยวิธีการอื่น
4. ข้อเสนอให้ยุบศูนย์ส่งเสริมการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับสตรีนั้น เป็นการเสนอให้ยุบหน่วยงานโดยไม่ต้องมีการจัดตั้งสำนักงาน แต่เนื้องานการจัดศึกษาสำหรับกลุ่มสตรียังคงเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนภาคตามเดิม
อธิบดี กศน.กล่าวเพิ่มเติมว่า ในเรื่องดังกล่าว กศน.ได้ชี้แจงข้อมูลให้สำนักงาน ก.พ.ทราบแล้ว เพื่อจะได้ดำเนินการให้ถูกต้องต่อไป--จบ--