กรุงเทพ--31 ก.ค.--กระทรวงสาธารณสุข
กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับกรมตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทุกระดับ ให้มีความรู้และมีประสบการณ์ และที่สำคัญต้องมีสติมั่นคง สามารถนำไปใช้ในการระงับอัคคีภัย ช่วยเหลือชีวิตคนอื่นได้ถูกต้องปลอดภัย
เช้าวันนี้ (31 กรกฎาคม 2540) นายสุนทร วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยหลังเป็นประธาน เปิดการซ้อมแผนและระงับอัคคีภัย ณ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี โดนมี นายกวี มินวงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ ในการจัดงานในครั้งนี้ ว่า
ปัจจุบัน ได้เกิดอัคคีภัยต่าง ๆ หลายแห่ง รวมทั้งสถานที่ราชการ ซึ่งทำให้เกิดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน เป็นจำนวนมาก โรงพยาบาลเป็นสถานที่สามารถก่อให้เกิดอุบัติเหตุและอัคคีภัย เนื่องมาจากอุปกรณ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์ไฟฟ้า วัสดุทางเคมี วัตถุไวไฟ สิ่งก่อสร้าง โรงงานต่าง ๆ ที่อยู่อาศัย ฯลฯ ล้วนเป็นสาเหตุทำให้เกิดอุบัติภัยและอัคคีภัยได้ตลอดเวลา ถ้าไม่ระมัดระวังสอดส่องดูแลเป็นอย่างดีแล้ว อาจก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงแก่ทางราชการได้ ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุข โดยกองโรงพยาบาลภูมิภาค ตระหนักเห็นถึงความสำคัญ และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอัคคีภัย ในรพ.จึงให้รพ.ทุกแห่งซักซ้อมแผนรองรับอุบัติภัยในรพ. ซึ่งจังหวัดปราจีนบุรีเป็นจังหวัดหนึ่ง ได้สนองนโยบายดังกล่าว จึงได้จัดการซ้อมแผนและระงับอัคคีภัยขึ้น โดยโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นายสุนทร กล่าวต่อว่า จากสถิติ พบผู้ป่วยอุบัติเหตุที่เข้ารับการรักษาในรพ.เจ้าพระยา อภัยภูเบศร ปี 2539 จำนวน 7,008 คน เป็นชาย 4,326 คน หญิง 2,682 คน และในเดือนตุลาคม 39 - มิถุนายน 2540 มีผู้ป่วยอุบัติเหตุสูงขึ้นถึง 7,891 คน ชายเพิ่มขึ้น 432 คน หญิงเพิ่มขึ้น 551 คน
การอบรมการซ้อมแผนและระงับอัคคีภัยครั้งนี้ คาดว่า ผู้เข้าอบรมสามารถนำความรู้และประสบการณ์ไปใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอน กลวิธีการระงับอุบัติเหตุจากสาเหตุต่าง ๆ ที่สามารถบรรเทาหรือระงับอุบัติภัยลงได้ และที่สำคัญต้องมีสติมั่นคง สามารถช่วยเหลือตนเองและผู้อื่น และผู้ที่รับบาดเจ็บได้ รวมทั้งการระมัดระวังในการใช้เครื่องมือ อุปกรณ์การแพทย์ต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยยิ่งขึ้น นับว่าเป็นการบรรเทาความสูญเสียให้น้อยลงได้ นายสุนทร กล่าวในที่สุด--จบ--