กรุงเทพ--26 ม.ค.--กระทรวงสาธารณสุข
กระทรวงสาธารณสุข ปรับยุทธศาสตร์ปราบโรคเอดส์ใน 6 จังหวัดภาคเหนือตอนบน โดยดึงงบในส่วนสนับสนุนเอ็นจีโอมาเสริม 5 ล้านบาท รวมทั้งสนับสนุนให้ชุมชนใช้งบขององค์การบริหารส่วนตำบล เนื่องจากในปีนี้ได้รับงบจำกัดมากเพียง 6 ล้านบาทเศษ ขณะเดียวกันจะหนุนการวิจัยสมุนไพร ซึ่งเป็นของดี ประสิทธิภาพสูง ราคาถูก หาง่าย เพื่อให้เป็นทางเลือกที่ประหยัดให้กลุ่มผู้ติดเชื้อเอดส์
นายธีระวัฒน์ ศิริวันสาณฑ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการต้านภัยเอดส์ภาคเหนือตอนบน ครั้งที่ 1/2541 ที่โรงพยาบาลสวนปรุง จ.เชียงใหม่ ในวันนี้ว่า ในปี 2541 ศูนย์ปฏิบัติการต้านภัยเอดส์ภาคเหนือตอนบน หรือศอนบ.ได้รับงบประมาณในการแก้ไขปัญหาเอดส์ใน 6 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ซึ่งเป็นแหล่งใหญ่ของปัญหาเอดส์ในประเทศ รวมทั้งสิ้น 6,484,800 บาท (หกล้านสี่แสนแปดหมื่นสี่พันแปดร้อยบาทถ้วน) ซึ่งลดลงจากปีก่อน ๆ ค่อนข้างมาก ทำให้งบที่เคยจัดสรรเพื่อแก้ปัญหาเอดส์ในระดับหมู่บ้าน ชุมชน หมู่บ้านละ 5,000 - 10,000 บาท คิดเป็นเงินปีละ ประมาณ 50 ล้านบาทนั้นลดลงไปด้วย เนื่องจากผลกระทบปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ดังนั้นคณะกรรมการจึงได้ปรับแนวทางแก้ไขปัญหา โดยดึงงบประมาณในส่วนของการสนับสนุนองค์กรเอกชนมาตั้งเสริมไว้อีกประมาณ 5 ล้านบาท และให้ชุมชนเขียนโครงการมาขอใช้งบประมาณในส่วนนี้ได้ อีกส่วนหนึ่งจะสนับสนุนให้ชุมชนใช้งบประมาณจากองค์การบริหารส่วนตำบลมาใช้ดำเนินงานเอดส์ในพื้นที่ได้ ทั้งนี้เพื่อให้การสานต่องานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และเหมาะกับสภาพปัญหาในแต่ละพื้นที่ ซึ่งจะทำให้งานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ทั้งนี้กลยุทธสำคัญในการแก้ปัญหาเอดส์ในปีนี้ประการหนึ่งก็คือ จะมุ่งเน้นการสนับสนุนการศึกษาค้นคว้าการใช้สมุนไพรในผู้ป่วย และผู้ติดเชื้อเอดส์อย่างเป็นระบบตั้งแต่การรวบรวมข้อมุล การทดลอง การประเมินผล เพื่อให้มีมาตรฐานการใช้ยาที่ได้ผลและปลอดภัย เนื่องจากในภาคเหนือมีสมุนไพรอยู่เป็นจำนวนมาก หากสมุนไพรตัวใดที่ใช้ได้ผลดีและมั่นใจในความปลอดภัยก็จะสนับสนุนให้มีการผลิตออกใช้ให้แพร่หลาย ซึ่งในขณะนี้ในเขตภาคเหนือตอนบนมีความพร้อมในด้านนี้อยู่สูงและมีการประสานเป็นเครือข่ายระหว่างหมอพื้นบ้านกับโรงพยาบาลชุมชน และกลุ่มชมรมผู้ติดเชื้ออยู่แล้ว เชื่อว่าจะสามารถพัฒนาจุดนี้ไปได้เร็ว ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับการดูแลผู้ติดเชื้อ เพราะจะมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า และมีหลายทางเลือกอีกด้วย ดังนั้นตนจึงได้มอบหมายให้คณะกรรมการพิจารณากำหนดแนวทางการดำเนินงานเพื่อให้งานด้านนี้มีประสิทธิผลโดยเร็ว
นายธีระวัฒน์ กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับผลการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการต้านภัยเอดส์ภาคเหนือตอนบน ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ได้ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อเอดส์ในพื้นที่ดังกล่าว มีแนวโน้มลดลงอย่างน่าพอใจ โดยเห็นได้อย่างชัดเจนว่าอัตราการติดเชื้อในกลุ่มเสี่ยงต่าง ๆ เริ่มลดลงตั้งแต่ปลายปี 2538 เป็นต้นมา โดยเฉพาะกลุ่มหญิงมีครรภ์ที่มาคลอดในสถานพยาบาลของรัฐ พบว่าอัตราการติดเชื้อลดลงเหลือร้อยละ 2.85 ทำให้จำนวนเด็กที่ติดเชื้อจากมารดาลดลงด้วย นอกจากนี้สิ่งที่เป็นตัวชี้วัดชัดเจนว่าการติดเชื้อเอดส์ลดลง คือ อัตราป่วยจากกามโรคในเขตจังหวัด เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน พะเยา แม่ฮ่องสอน ลดลงมากต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ล่าสุดในปลายปี 2540 มีอัตราป่วยไม่ถึง 1 รายในประชากรทุก 1,000 ราย จึงเป็นสิ่งที่ท้าทายความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งจะได้นำไปเป็นตัวอย่างการดำเนินงาน ขยายผลไปยังพื้นที่อื่นต่อไป--จบ--