เอบีเอ็น แอมโร อนุมัติเงินกู้ให้คาลเท็กซ์

กรุงเทพ--18 มี.ค.--ธนาคารเอบีเอ็น แอมโร
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2541 ที่ผ่านมาธนาคาร เอบีเอ็น แอมโร และบริษัท น้ำมันคาลเท็กซ์ (ไทย) จำกัดร่วมลงนามในสัญญาเงินกู้ซินดิเคทจำนวน 50 ล้านเหรียญสหรัฐระยะเวลาทั้งสิ้น 3 ปี ซึ่งเป็นการให้กู้ยืมร่วมกันโดยสถาบันการเงินต่างชาติหลายแห่งในประเทศไทย การลงนามสัญญาเงินกู้ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่ประเทศไทยประสบกับวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจเมื่อเดือนกรกฎาคม 2540 ที่ผ่านมา
สัญญาเงินกู้ที่ได้ลงนามในวันนี้ ได้รับการค้ำประกันจากบริษัทคาลเท็กซ์ ปิโตรเลียม คอร์ปอเรชั่น แห่งสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นบริษัทแม่ของคาลเท็กซ์ ประเทศไทย เงินจำนวนดังกล่าวจะนำไปใช้ในกิจการทั่วไปของบริษัท รวมทั้งรีไฟแนนซ์หนี้ระยะสั้นของคาลเท็กซ์ ประเทศไทย (ซึ่งประกอบด้วยหนี้ที่เกิดขึ้นจากการเข้าซื้อกิจการสถานีบริการน้ำมันของบีพีในประเทศไทย)
มร. เจฟฟรีย์ รายดอน รองประธานฝ่ายสินเชื่อโครงการ (Head of Structured Finance) แห่งธนาคารเอบีเอ็น แอมโร กล่าวว่า "เงินกู้จำนวน 50 ล้านเหรียญสหรัฐที่เราเสนอให้แก่คาลเท็กซ์ในวันนี้เป็นเงินกู้ที่มีโครงสร้างและองค์ประกอบอันเหมาะสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการเงินให้แก่คาลเท็กซ์ในการรีไฟแนนซ์หนี้ของบริษัทที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยมีระยะเวลาไถ่ถอน 3 ปี และออพชั่นในการจ่ายคืนจำนวน Oversubscribe ในปลายปีที่ 2”"
มร. เจอร์รี่ ดี เกรียร์ กรรมการบริหาร (Director and Chief Financial Officer) บริษัท น้ำมันคาลเท็กซ์ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า "เงินกู้ซินดิเคท จากธนาคารเอบีเอ็น แอมโร จะช่วยรักษาสภาพคล่องด้านการเงิน และยังช่วยให้สามารถสร้างความเติบโตให้กับธุรกิจของคาลเท็กซ์ แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำเช่นในปัจจุบันจะทำให้กระแสการลงทุนในประเทศลดต่ำลงแต่คาลเท็กซ์ยังคงพร้อมที่จะช่วยพัฒนาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศไทยผ่านการลงทุนในธุรกิจของบริษัทฯ การลงนามในสัญญาเงินกู้ในวันนี้ได้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของคาลเท็กซ์ในการขยายธุรกิจเพื่อมอบบริการที่มีคุณภาพให้แก่ลูกค้าทั่วประเทศ"
คาลเท็กซ์ มีสถานีบริการน้ำมันทั้งสิ้น 600 แห่งทั่วประเทศ โดยนับรวมสถานีบริการของบีพีซึ่ง คาลเท็กซ์เพิ่งเข้าซื้อกิจการอีก 47 แห่ง คาลเท็กซ์ถือหุ้นร้อยละ 64 (ร่วมกับการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยผู้ถือหุ้นร้อยละ 36) ในโรงกลั่นน้ำมันสตาร์ในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดซึ่งมีกำลังผลิตน้ำมันถึง 130,000 บาร์เรลต่อวัน และเมื่อเร็ว ๆ นี้ โรงกลั่นน้ำมันสตาร์และโรงกลั่น น้ำมันระยอง (ถือหุ้นร้อยละ 64 โดยเชลล์ และร้อยละ 36 โดยปตท.) ได้ร่วมกันประกาศข้อตกลงการร่วมเป็นพันธมิตร และร่วมการดำเนินงานเพื่อลดค่าใช้จ่ายให้กับโรงกลั่นทั้งสองแห่ง ทั้งนี้ ธนาคาร เอบีเอ็น แอมโร ได้รับการมอบหมายให้เป็น Arranger เพื่อดำเนินการด้านการเงินให้กับโรงกลั่นน้ำมันทั้งสองแห่งอีกด้วย
มร. โจเซฟ เฮดส์ รองประธานฝ่ายสินเชื่อ (VP and Head of Global Corporate Banking) แห่งธนาคาร เอบีเอ็น แอมโร ประเทศไทย กล่าวว่า "คาลเท็กซ์ได้แสดงให้ประเทศไทยเห็นถึงปณิธานและความมุ่งมั่นที่บริษัทฯ มีต่อธุรกิจในประเทศไทย โดยเห็นได้ชัดเจนจากการลงทุนของคาลเท็กซ์ในโรงกลั่นน้ำมันสตาร์ รวมทั้งการพัฒนาและขยายเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันที่ผ่านมา ธนาคารเอบีเอ็น แอมโร มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่เราได้เป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนการลงทุนของ คาลเท็กซ์ในประเทศไทย"
ธนาคาร เอบีเอ็น แอมโร มีความมั่นใจถึงสัญญาณการตอบรับอันดีที่ตลาดการเงินในประเทศมีต่อสัญญาเงินกู้ของคาลเท็กซ์ประเทศไทยในวันนี้ เงินกู้ดังกล่าวมีโครงสร้างอันเหมาะสมซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้ประเทศไทยฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่กำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน มร. รายดอน กล่าวว่า "การร่วมซินดิเคชั่นออกเงินกู้ให้กับคาลเท็กซ์ในครั้งนี้ เป็นสัญญาณอันดีที่แสดงให้เห็นถึงระดับความมั่นใจที่สถาบันการเงินต่างประเทศมีต่อคาลเท็กซ์และประเทศไทยโดยรวม”"
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ พึงจิต แพทย์ศิลป์ โทร 252-9871/7แฟกซ์ 254-8353--จบ--