กรุงเทพ--18 พ.ย.--สำนักงานเขตกทม.
ที่บริเวณท้องสนามหลวง (ด้านฝั่งเหนือ) เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 40 เวลา 16.00 น. ดร.พิจิตต รัตตกุล ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดและเยี่ยมชมงานบางกอกบุ๊คแฟร์ "มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 2" โดยมี นายมานิต รัตนสุวรรณ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายสมคาด สืบตระกูล เลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายศิริ เปรมปรีดิ์ ผู้อำนวยการสำนักสวัสดิการสังคม นางนิดดา หงษ์วิวัฒน์ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์ และผู้จัดจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย นายณรงค์ จุนเจือศุภฤกษ์ ประธานกรรมการจัดงานฯ พร้อมด้วย กนกพงศ์ สงสมพันธ์ และ คำพูน บุญทวี นักเขียนซีไรท์ ร่วมพิธีเปิด
ผู้อำนวยการสำนักสวัสดิการสังคม กล่าวรายงานว่า กรุงเทพมหานครร่วมกับสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย กำหนดจัดงาน บางกอกบุ๊คแฟร์ "มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 2" ระหว่างวันที่ 15-30 พฤศจิกายน 2540 ตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น. ณ บริเวณท้องสนามหลวง (ด้านฝั่งเหนือ) โดยมีสำนักพิมพ์ กว่า 100 สำนักพิมพ์ มาร่วมออกร้านหนังสือครั้งยิ่งใหญ่ จำนวนถึง 400 บูธ จัดแสดงหนังสือที่ดีมีคุณค่าให้ประชาชนได้เลือกหาซื้อตามความสนใจในราคาถูกพิเศษ ทั้งนี้เพื่อสร้างภูมิปัญญา และส่งเสริมการศึกษาของชาติให้กว้างขวาง สนับสนุนให้เด็ก เยาวชน และประชาชนรักการอ่านรวมทั้งกระตุ้นให้เกิดความตื่นตัวในวงการหนังสือ เพื่อให้มีการผลิตหนังสือดี ๆ ออกมาสู่สายตาประชาชน ตลอดจนเพื่อรำลึกถึงร้านหนังสือแหล่งปัญญาของคนกรุงเทพฯ ในอดีต
กรุงเทพมหานครมีห้องสมุดประชาชนกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ จำนวน 13 แห่ง ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อการบริการประชาชน ดังนั้น กทม.จึงได้จัดงานดังกล่าวขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสเลือกหาหนังสืออ่านได้อย่างกว้างขวางตามความสนใจและเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน นอกจากนี้ทางสมาคมผู้จัดพิมพ์หนังสือฯ จะบริจาคหนังสือ โดยสรรหาหนังสือจากร้านที่มาจำหน่ายในงานเพื่อนำเข้าห้องสมุดประชาชนกรุงเทพมหานคร และห้องสมุดโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร 429 โรงเรียนและบริจาคอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ให้ห้องสมุดประชาชนกรุงเทพมหานคร คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น จำนวน 1 ล้านบาท
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวภายหลังพิธีเปิดว่า การจัดมหกรรมหนังสือครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ได้มีการรวมตัวกันของสำนักพิมพ์และผู้จัดจำหน่าย โดยมีจำนวนมากถึง 400 บูธ ซึ่งนับว่าเป็นการจัดงานที่ประสบผลสำเร็จ เพราะสามารถเปิดกว้างให้ประชาชนในสังคมได้มีโอกาสรับรู้สิ่งที่เป็นความคิด ความอ่านจากข้อเท็จจริง ผลสรุป การวิจัย บทวิเคราะห์ได้อย่างถี่ถ้วน และกว้างขวางเพราะหนังสือเป็นแหล่งความรู้ และเป็นสื่อสำคัญด้านการศึกษา ตลอดชีวิตของมนุษย์ อีกทั้งพัฒนาคนในชาติให้มีคุณภาพที่ดี นอกจากนี้การจัดงานดังกล่าวยังเป็นการกระตุ้นให้เด็ก เยาวชน และประชาชนได้เข้าถึงสื่อการศึกษา พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เลือกซื้อหนังสือทุกประเภทตามความพอใจในราคาถูกเป็นพิเศษ เหมาะสมกับยุคเศรษฐกิจปัจจุบัน
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวต่อไปว่า กรุงเทพมหานครได้ส่งเสริมให้ประชาชนรักการอ่าน โดยมีนโยบายจะจัดทำแผงหนังสือแบบเดียวกับที่เคยมีที่ท้องสนามหลวง เพื่อเป็นแหล่งให้ความรู้แก่ประชาชน โดยตักตวงจากแผงหนังสือของกทม. ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างจัดหาสถานที่เพื่อจัดตั้งเป็นการถาวรต่อไป นอกจากนี้กทม. จะจัดทำห้องสมุดตึกแถวขึ้นมาอีก จำนวน 4 แห่ง ใน 4 ภาคของกรุงเทพฯ รวมทั้งจัดให้มีรถห้องสมุดเคลื่อนที่บริการตามชุมชนแออัดในเขตกรุงเทพมหานครให้ทั่วถึงอีกด้วย
อนึ่ง สำหรับกิจกรรมภายในงานฯ ประกอบด้วย นิทรรศการการศึกษาของกรุงเทพมหานคร กิจกรรมอบรมสัมมนาเสริมความรู้นักอ่าน การพบปะเสวนานักเขียนระดับแนวหน้าของไทย การบรรยายที่มาของวรรณกรรมชิ้นเอก โดยนักเขียนซีไรท์ สำหรับรายการภาคบันเทิงเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมไทย และให้สอดคล้องปี AMAZING THAILAND วันศุกร์, เสาร์, อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 16.00-21.00 น. มีการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยจากสถาบันราชภัฏสวนสุนันทา วงดนตรีลูกทุ่งยักษ์ และการแสดงดนตรีเพลงเพื่อชีวิต อาทิ พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ วงสันติภาพ วงอมตะ วงแผ่นดิน วงสมัชชา สุรชัย จันทิมาธร วิสา คัญทัพ ส่วนในวันธรรมดาจะมีวงดนตรีจากกรุงเทพมหานคร บรรเลงตั้งแต่เวลา 16.00-19.00 น.--จบ--