BOI ร่วมสัมมนาต่อวีซ่า-ใบอนุญาตทำงานใน 3 ชม. ขยายผลอำนวยความสะดวกนักลงทุน

ศุกร์ ๐๓ เมษายน ๑๙๙๘ ๑๖:๒๙
กรุงเทพ--3 เม.ย.--บีโอไอ
ตม.-กรมการจัดหางาน ร่วมขยายผลในการอำนวยความสะดวกให้นักลงทุน จัดสัมมนาเรื่องการต่ออายุวีซ่าและใบอนุญาตทำงานใน 3 ชั่วโมงและการขอถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร เพื่อสร้างความเข้าใจในทางปฏิบัติให้ผู้ขอรับบริการ
นายสถาพร กวิตานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวในการเป็นประธานพิธีเปิดการสัมมนาเรื่อง การขอรับบริการต่ออายุวีซ่าและใบอนุญาตทำงานใน 3 ชั่วโมงและการขอถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ที่โรงแรมเซ็นทรัล พลาซ่า วานนี้ (2 เม.ย.) ที่ผ่านมามุมมองหรือทัศนะของเจ้าหน้าที่รัฐและผู้ขอรับบริการแตกต่างกัน เจ้าหน้าที่รัฐจะคำนึงถึงขั้นตอนการปฏิบัติให้เป็นไปตามกฏหมาย ขณะที่ภาคเอกชนผู้ขอรับบริการต้องการความสะดวกรวดเร็วมีขั้นตอนน้อยที่สุด สำนักงานฯซึ่งมีหน้าที่ส่งเสริมการลงทุน สร้างงานสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นในประเทศจึงร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงวิธีการทำงาน จัดระบบใหม่ เพื่อให้ผู้ขอรับบริการได้ประโยชน์เต็มที่
อย่างไรก็ดี ข้อเท็จจริงในเรื่องกฏ ระเบียบของราชการอาจมีมากกว่าที่ภาคเอกชนได้รับทราบ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการประชุมเพื่อซักซ้อมความเข้าใจให้เกิดผลในทางปฏิบัติมากยิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อผู้เข้าร่วมสัมมนาเกิดความเข้าใจมากขึ้นปัญหาต่าง ๆ จะลดลงได้อย่างมาก
"ที่ผ่านมาการทำงานของศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงานในช่วง 1 ปีเศษโดยภาพรวมได้รับคำชมจากผู้ขอรับบริการว่าปฏิบัติงานได้ดี แต่การปฏิบัติงานดีอย่างเดียวคงไม่พอจะต้องพัฒนาขยายขอบเขตให้กว้างขึ้นไปอีก ดังนั้นการสัมมนาลักษณะนี้จึงเกิดขึ้น"
นายสถาพรกล่าวด้วยว่า ต้องยอมรับความยากลำบากที่เกิดขึ้นในขณะนี้ทำให้มีความจำเป็นต้องพึ่งพาเงินตราจากต่างประเทศมาช่วยแก้ปัญหาสภาพคล่องภายใน สำหรับระบบราชการของไทยก็ได้พยายามปรับตัวอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดความคล่องตัวกับผู้ลงทุนซึ่งเป็นประเด็นหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤตการณ์ไปได้
"ผมได้มีโอกาสไปบรรยรายเรื่องการดำเนินงานของศูนย์บริการวีซ่าให้ต่างประเทศฟัง ซึ่งหน่วยงานราชการ และหน่วยสนับสนุนการลงทุนของหลายประเทศต่างก็เห็นว่าไทยมีความก้าวหน้าระดับหนึ่งในอนาคตคาดว่าจะเห็นประเทศคู่แข่งของไทยหลายประเทศเร่งปรับปรุงบริการด้านนี้เหมือนไทย ซึ่งคงถือได้ว่าไทยเป็นแบบฉบับที่สามารถถ่ายทอดให้ประเทศต่าง ๆ ได้"
เลขาธิการบีโอไอกล่าวในท้ายที่สุดว่า ลำพังจะให้หน่วยราชการปรับตัวอย่างเดียวคงไม่เพียงพอเพราะในภาวะที่เศรษฐกิจต้องแข่งขันกันมาก ภาคเอกชนก็ต้องเข้ามามีส่วนร่วม สร้างความเข้าใจ ความรู้สึกร่วมกันที่ต้องปรับระบบเศรษฐกิจให้รวดเร็วแข่งขันในตลาดโลกได้ ซึ่งการจัดสัมมนาครั้งนี้นอกจากผู้เข้าร่วมจะได้ทราบวิธีปฏิบัติงานอย่างถูกต้องแล้ว ยังได้สัมผัสกับวิทยากรที่อยู่ในภาคปฏิบัติจริงอีกด้วย รวมทั้งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้เข้าสัมมนาที่จะได้พบปะกับผู้ร่วมสัมมนาอื่นเพื่อแลกเปลี่ยนทัศนะกันได้
สำหรับการจัดสัมมนาครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) และกรมการจัดหางาน โดยมีภาคเอกชนที่เข้าร่วมสัมมนามากกว่า 100 คน
ผู้ที่จะขอรับบริการสามารถสอบถามได้ที่ ศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน กฤษดา พลาซ่า ชั้น 3-5, 207 ถ.รัชดาภิเษก ดินแดง กรุงเทพมหานคร 10310 โทรศัพท์ 693-9333-39 โทรสาร 693-9340--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ