12 พ.ย.นี้ กทม.จัดสัมมนา "กรุงเทพฯ เมืองน่าอยู่ พ.ศ. 2543"

จันทร์ ๑๐ พฤศจิกายน ๑๙๙๗ ๑๔:๑๘
กรุงเทพ--10 พ.ย.--กปส.
ที่ห้องประชุมปฏิบัติการกรุงเทพมหานคร วันที่ 7 พฤศจิกายน 2540 เวลา 11.00 น. นพ.ขจิต ชูปัญญา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าวโครงการ "กรุงเทพฯ เมืองน่าอยู่" โดยมี นพ.วันชาติ ศุภจตุรัส รองปลัดกรุงเทพมหานคร และนางณฐนนท์ ทวีสิน ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกรุงเทพมหานคร ร่วมแถลงข่าว
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักนโยบายและแผนกทม. ร่วมกับสถาบันพัฒนาข้าราชการกรุงเทพมหานคร จัดสัมมนาโครงการ "กรุงเทพฯ เมืองน่าอยู่ พ.ศ. 2543" สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน และสื่อมวลชน รวม 280 คน ในวันพุธที่ 12 พฤศจิกายน 2540 ระหว่างเวลา 08.00-16.00 น. ณ ห้องอัมรินทร์ ชั้น 3 โรงแรม เอส ดี อเวนิว เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร เพื่อทบทวนการดำเนินงาน สร้างความเข้าใจ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และประสานแผนการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สามารถปฏิบัติงานได้สอดคล้องกับหน้าที่และความรับผิดชอบ ให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองน่าอยู่ในปี พ.ศ. 2543 โดย ดร.พิจิตต รัตตกุล ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการสัมมนา
ผู้อำนวยการนสำนักนโยบายและแผนกทม. กล่าวว่า แนวความคิดจัดทำโครงการเมืองน่าอยู่ เริ่มมาจากการคาดการณ์ขององค์การสหประชาชาติ ว่า ใน พ.ศ.2543 ประชากรโลกส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่จะก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพอนามัย ความยากจน ความไม่เท่าเทียมกัน และวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจเพิ่มึ้น และ พ.ศ. 2529 สำนักงานองค์การอนามัยโลกภาคพื้นยุโรป ได้เสนอโครงการ Healthy Clties โดยนำเอาหลักการเรื่อง สุขภาพดีถ้วนหน้า พ.ศ. 2543 (Health for all 2000) มาใช้และคัดเลือก 11 เมืองในยุโรปร่วมกันจัดตั้ง Healthy Clties Project ขึ้น จากนั้นได้ขยายผลออกไปทั่วโลก ในปัจจุบันมีกว่า 1,000 เมือง เป็นสมาชิกในเครือข่ายของโครงการ Healthy Clties ด้วยการสนับสนุนขององค์การอนามัยโลก
กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองหนึ่งในภูมิภาคเอเชียที่ได้เข้าร่วมโครงการนี้ โดยเริ่มโครงการนำร่องใน 3 เขต เมื่อ พ.ศ. 2537 ได้แก่ เขตยานนาวา สาธร บางคอแหลม ต่อมาได้ขยายการปฏิบัติครอบคลุมทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร และได้ปรับปรุงพัฒนาเป็นโครงการ "กรุงเทพฯ-เมืองน่าอยู่" โดยกำหนดตัวชี้วัด 23 ตัว จากการประยุกต์ใช้หลักเกณฑ์โครงการ Healthy Clties In Asia ขององค์การอนามัยโลกมาเป็นมาตรฐานในการพิจารณาความสำเร็จของโครงการ จำแนกตัวชี้วัดเป็น 3 ด้าน ได้แก่ ด้านสุขภาพทางกาย และสุขภาพทางจิตของประชาชน ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านการประกอบอาชีพ และความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจของประชาชน ทั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองน่าอยู่ในปี พ.ศ. 2543--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ