กรุงเทพฯ--27 พ.ย.--ธนาคารไทยพาณิชย์
นายวิรัติ รัตนาภรณ์ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เปิดเผยว่า ในปี 2544 ธนาคารตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยประมาณ 30-35% จาก 28% ในปีนี้ เนื่องจากอนาคตรายได้จากดอกเบี้ยจะลดน้อยลง ธนาคารจึงต้องหาทางเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียมโดยใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินของธนาคารทุกประเภท
แนวทางการดำเนินการจะปรับให้พนักงานมีหน้าที่และเวลาในการหาลูกค้ามากขึ้น โดยธนาคารจะโอนงานด้านเอกสารเข้ามาที่สำนักงานใหญ่ทั้งหมด ทำให้สาขามีเวลาในการให้บริการและเสนอผลิตภัณฑ์แก่ลูกค้าได้อย่างเต็มที่ และปรับรูปแบบสาขาเน้นเปิดสาขาย่อยในห้างสรรพสินค้า (easy banking)ให้มากขึ้น ซึ่งใช้งบประมาณลงทุนเพียงสาขาละ5 ล้านบาท และคาดว่าคืนทุนได้ภายในเวลา 3-5 ปี โดยซึ่งในปี 2544 จะเปิดสาขาย่อย 7 แห่ง
นอกจากนี้ ธนาคารจะปรับสาขาบางแห่งให้เป็นศูนย์ธุรกิจ ซึ่งภายในกลางปีหน้าจะเปิดทั้งหมด 35 แห่ง โดยศูนย์ธุรกิจจะมีอำนาจอนุมัติสินเชื่อประมาณ 7-8 ล้านบาท เพื่อให้บริการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ส่วนสินเชื่อที่มูลหนี้มากกว่านั้นจะส่งให้สำนักงานใหญ่พิจารณาอนุมัติ
สาขาที่ธนาคารพิจารณาแล้วว่าจะไม่ทำกำไรภายใน 3-4 ปีก็จะทำการปิดหรือควบรวมกับสาขาใกล้เคียง แต่จะพยายามไม่ให้มีผลกระทบต่อลูกค้าของธนาคาร โดยลูกค้ายังสามารถไปใช้บริการในสาขาที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงได้ตามปกติ
"ธนาคารจำเป็นต้องปรับรูปแบบสาขาใหม่ ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับธนาคารพาณิชย์เกือบทุกแห่งที่จะปรับรูปแบบสาขาให้ทันสมัย ยุบรวมสาขาที่ไม่ทำกำไร เปิดสาขาย่อยที่เน้นให้บริการด้วยเครื่องมืออิเลคทรอนิกส์ที่ใช้พนักงานจำนวนน้อย อย่างไรก็ตามการปรับรูปแบบสาขาของธนาคารจะไม่มีผลกระทบต่อพนักงาน เพราะพนักงานสามารถเข้าไปทำงานในศูนย์ธุรกิจและเป็นพนักงานขายในสาขา"--จบ--
-สส-
- ๑๖ ม.ค. ไทยพาณิชย์ตอกย้ำธนาคารยอดเยี่ยมเพื่อลูกค้าเอสเอ็มอี กวาด 7 รางวัล จากเวทีชั้นนำในปี 2024 พร้อมดูแลลูกค้าให้เติบโตอย่างยั่งยืน
- ๑๖ ม.ค. ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดตัวชุดยูนิฟอร์มใหม่ "SCB UnewForm: ชุดใหม่ คิดใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม" ภายใต้แนวคิด "อยู่ อย่าง ยั่งยืน" (Live Sustainably)
- ๑๕ ม.ค. ธนาคารไทยพาณิชย์ คว้า 5 รางวัลสำคัญด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมในปี 2567 ตอกย้ำความเป็นผู้นำองค์กรยั่งยืน