อย. เผยข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จากแป๊ะก๊วย

พฤหัส ๐๒ พฤศจิกายน ๒๐๐๐ ๑๐:๓๒
กรุงเทพฯ--2 พ.ย.--อย.
อย. เผย ผลิตภัณฑ์จากใบแป๊ะก๊วยปัจจุบันยังไม่มีผลการศึกษาวิจัยเพียงพที่จะยืนยันว่ารักษาโรคสมองเสื่อมได้ เตือนผู้บริโภคอย่าหลงเข้าใจผิด หากร่างกายได้รับในปริมาณมาก อาจมีผลทำให้เลือดแข็งตัวยาก เพราะสารในใบแป๊ะก๊วยมีฤทธิ์ยับยั้งการเกาะกันของเกร็ดเลือด
ภญ.อังกาบ เวสโกสิทธิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ตามที่มีหลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับสรรพคุณองใบแป๊ะก๊วย (Girkgo biloba Extract) ว่าสามารถรักษาโรคสมองเสื่อมได้ ทำให้ประชาชนที่ป่วยเป็นโรคดังกล่าวซื้อหามาทานเพื่อรักษาโรค นั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ประสิทธิผลของผลิตภัณฑ์จากใบแป๊ะก๊วย ในปัจจุบันยังไม่มีผลการศึกษาวิจัยเพียงพอที่จะยืนยันแน่ชัดสามารถรักษาโรคสมองเสื่อมได้ และหากรับประทานผลิตภัณฑ์จากใบแป๊ะก๊วยในปริมาณมากๆ อาจมีผลทำให้เลือดแข็งตัวยาก เวลาเกิดบาดแผล เนื่องจากสารในใบแป๊ะก๊วยมีฤทธิ์ยับยั้งการเกาะกันของเกร็ดเลือด ผู้ที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด (Anti-coagulants) และผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์จากใบแป๊ะก๊วย ได้แก่ ปวดศรีษะ วิงเวียน มึนงง อาการปั่นป่วนในทางเดินอาหาร อาการแพ้ทางผิวหนัง มีความผิดปกติของระบบหัวใจและหลอดเลือด ง่วงซึม มีความผิดปกติของระบบประสาทและการนอนหลับผิดปกติ
ผลิตภัณฑ์จากใบแป๊ะก๊วย มีทั้งที่ขึ้นทะเบียนเป็นยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ และเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารซึ่งต้องขออนุญาตใช้ฉลาก กรณีที่เป็นยาแผนปัจจุบันซึ่งมีข้อบ่งใช้ในโรคเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ และการไหลเวียนของเลือดส่วนขอบผิดปกติ รวมทั้งโรคหลอดเลือดในผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน จัดเป็นยาอันตราย ซึ่งต้องขายเฉพาะในร้านขายยาแผนปัจจุบัน และไม่ให้มีการโฆษณาสรรพคุณยาต่อสาธารณะ หากผู้ประกอบการรายใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นทะเบียนเป็นอาหาร จัดเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จะไม่มีการระบุสรรพคุณใดๆในการรักษาหรือป้องกันโรค การโฆษณาต้องขออนุญาตจาก อย.ก่อน หากโฆษณาอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาตจะต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท หากนำไปขายตรง โดยโฆษณาสรรพคุณอันเป็นเท็จ ต้องถูกระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
รองเลขาธิการฯ กล่าวต่อไปว่า ผู้ที่เป็นโรคสมองเสื่อมอาจเกิดจากการเสื่อมสลายของเนื้อสมอง เกิดจากโรคหลอดเลือดสมอง หรือการติดเชื้อในสมอง เช่น ไวรัส เกิดจากการขาดสารอาหารบางชนิด เช่น วิตามินบี1 หรือวิตามันบี12 เกิดจากการแปรปรวนของเมตาโบลิกของร่างกาย เกิดจาดการถูกกระทบกระแทกที่ศรีษะอยู่เสมอ และอาจเกิดจากกรรมพันธุ์ได้ ทั้งนี้ยังไม่พบว่ามีอาหารประเภทใดสามารถป้องกันโรคสมองเสื่อมได้ ทางที่ดีที่สุด ขอให้ผู้บริโภครับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ จะช่วยป้องกันได้ทางหนึ่ง
ในส่วนของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีสารสกัดจากใบแป๊ะก๊วยผสมอยู่ ผู้บริโภคควรระมัดระวังการใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน และก่อนจะเลือกผลิตภัณฑ์ใดๆ มาบริโภค ควรใช้วิจารณญาณถึงผลดีผลเสียที่จะได้รับ หรือปรึกษาขอคำแนะนำจากแพทย์ หรือเภสัชกร เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกาย รองเลขาธิการฯ กล่าวในตอนท้าย--จบ--
-อน-

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ