กทม.พร้อมสนับสนุน 12 องค์กรวิชาชีพด้านสื่อมวลชนฟาดแข้งฟุตบอลเชื่อมสามัคคี

กรุงเทพฯ--15 มี.ค.--กทม.
สมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยจัดแข่งขันฟุตบอลเชื่อมความสามัคคีระหว่างองค์กรสื่อมวลชนในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ในประวัติศาสตร์ วันเสาร์ที่ 17 มี.ค.44 นี้ โดยมี 12 องค์กรวิชาชีพด้านสื่อสารมวลชนเข้าร่วมการแข่งขัน
ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เมื่อวานนี้ (14 มี.ค.44) เวลา 11.00 น. ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ปลัดกรุงเทพมหานคร นายกวี จงกิจถาวร ประธานสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และนายดำฤทธิ์ วิริยะกุล ประธานการจัดการแข่งขันกีฬาเชื่อมความสามัคคีของสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ร่วมกันแถลงข่าวการแข่งขันฟุตบอลเชื่อความสามัคคีระหว่างองค์กรวิชาชีพด้านสื่อสารมวลชน ประกอบด้วย องค์กรสมาชิกสมาพันธ์ฯ 9 สมาคม ได้แก่ สมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย สมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคมช่างภาพสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย สมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิงแห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย และองค์กรพันธมิตรอีก 3 องค์กร ได้แก่ สมาคมช่างภาพผู้สื่อข่าวโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ชมรมผู้สื่อข่าวช่างภาพอาชญากรรม และชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ รวม 12 องค์กร โดยการแข่งขันจะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 17 มี.ค.44 เวลา 10.00 น. ณ สนามศูนย์เยาวชน (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง เริ่มการแข่งขันคู่แรกในเวลา 10.00น. ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กทม.ยินดีให้ความสนับสนุนการจัดการแข่งขันฟุตบอลครั้งนี้อย่างเต็มที่ เพื่อเสริมสร้างความสามัคคีระหว่างสื่อมวลชน ซึ่งถือว่าเป็นผู้ทำหน้าที่สื่อข่าวมาสู่ประชาชน การที่สื่อมวลชนหันมาออกกำลังกายด้วยการเล่นกีฬามากขึ้น ย่อมทำให้มีสุขภาพแข็งแรงและสามารถทำหน้าที่ของตนได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น กทม.จึงได้เข้ามาร่วมมืออำนวยความสะดวกในด้านสนามแข่งขันและการจัดการแข่งขันอื่นๆ
ประธานสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การแข่งขันฟุตบอลครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเชื่อมความสามัคคีระหว่างสมาชิกขององค์กรวิชาชีพดานสื่อมวลชนทั้งที่เป็นสมาชิกของสมาพันธ์ฯ และองค์กรพันธมิตรรวม 12 องค์กร ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การจัดตั้งสมาพันธ์ฯ เมื่อปี 2523 โดยหวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะแข่งขันกันเป็นประเพณีในปีต่อๆ ไป
ด้านนายวิฤทธิ์ วิริยะกุล ประธานการจัดการแข่งขันฯ กล่าวว่า การแข่งขันในครั้งนี้จะเป็นแบบแพ้คัดออก เหลือเพียง 2 ทีมเท่านั้น เพื่อเข้ารอบชิงชนะเลิศ โดยจะแข่งขันคู่ละ 40 นาที หากเสมอให้ตัดสินด้วยการยิงลูกโทษที่จุดโทษ โดยแข่งขันคู่ชิงชนะเลิศในเวลา 17.00 น. จากนั้นในเวลา 18.00 น. เป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ระหว่างสมาชิกและแขกรับเชิญ โดยจะมีดารา นักร้อง และตลกคณะต่างๆ มาร่วมให้ความบันเทิงตลอดรายการ นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนการจัดการแข่งขันจากกรุงเทพมหานคร บริษัทแอดวานซ์อินโฟร์เซอร์วิส (มหาชน) จำกัด บริษัทไทยน้ำทิพย์ จำกัด บริษัทคาร์ลเบิร์ก ประเทศไทย จำกัด และบริษัทแกรนด์สปอร์ตกรุ๊ป จำกัด--จบ--
-นห-