กรุงเทพฯ--22 มี.ค.--กรมการขนส่งทางบก
นายพงศกร เลาหวิเชียร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยเกี่ยวกับเหตุผลความจำเป็นในการเสนอแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยรถยนตร์เพื่อจัดระเบียบรถจักรยานยนต์รับจ้างว่าเป็นนโยบายที่กรมการขนส่งทางบกได้รับมอบหมายจากรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมให้พิจารณาวางบทบัญญัติในการควบคุมและจัดระเบียบรถจักรยานยนต์รับจ้างให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนที่เรียกร้องให้มีการกำหนดกฎหมายขึ้นมารองรับเพื่อคุ้มครองให้ประชาชนผู้โดยสารได้รับความเป็นธรรมความสะดวกปลอดภัยจากการใช้บริการมากยิ่งขึ้นนอกจากนี้ยังส่งผลดีต่อการจัดเก็บภาษีรถประจำปีการปราบปรามปัญหาอาชญากรรมต่างๆและเพื่อป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอาศัยช่องว่างที่ไม่มีกฎหมายรองรับกระทำการเรียกร้องผลประโยชน์จากผู้ประกอบอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้างอีกทางหนึ่งซึ่งคณะรัฐมนตรีได้รับหลักการร่างแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม2541ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาตรวจร่างของคณะกรรมการกฤษฎีกาจากนั้นจะนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาพิจารณาตามลำดับต่อไป
อธิบดีกรมการขนส่งทางบกได้กล่าวถึงรายละเอียดในหลักการของร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งมีแนวนโยบายกำหนดให้ผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์สาธารณะต้องเป็นนิติบุคคลและขอใบอนุญาตประกอบการรับจ้างบรรทุกผู้โดยสารจากนายทะเบียนโดยให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวงคมนาคมกล่าวคือในชั้นแรกกำหนดจำนวนรถที่จดทะเบียนเท่าที่มีอยู่ อายุใบอนุญาตประกอบการ3ปีค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบการฉบับละไม่เกิน2,000บาท(เป็นอัตราสูงสุดที่ต้องกำหนดในพ.ร.บ.รถยนตร์พ.ศ.2522ส่วนอัตราที่จะบังคับใช้จริงจะพิจารณากำหนดเป็นกฎกระทรวงในภายหลัง)ขอบเขตประกอบการทำได้ทั้งนอกซอยและในซอยอัตราค่าโดยสารในซอยต้องเป็นไปตามที่ทางราชการกำหนดส่วนการรับจ้างนอกซอยให้เป็นไปตามที่ตกลงกันแต่ไม่เกินที่กำหนด ส่วนตัวรถจะมีขนาดเครื่องยนต์ที่สอดคล้องกับรถที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันมีกระบังลมด้านหน้าเพื่อใช้เป็นที่แสดงเครื่องหมายต่างๆและมีที่สำหรับผู้โดยสารยึดเหนี่ยวโดยสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ไม่เกิน1คน
สำหรับคุณสมบัติของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะจะต้องมีสัญชาติไทยอายุไม่ต่ำกว่า20ปีบริบูรณ์พร้อมทั้งมีใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์สาธารณะเป็นการเฉพาะค่าธรรมเนียมใบอนุญาตขับรถฉบับละไม่เกิน1,000บาท(เป็นอัตราสูงสุดที่ต้องกำหนดไว้ในพ.ร.บ.รถยนตร์พ.ศ.2522ส่วนอัตราที่จะบังคับใช้จริงจะพิจารณากำหนดเป็นกฎกระทรวงในภายหลัง)ในกรณีที่มีใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลอยู่แล้วสามารถนำมาขอเทียบเพื่อออกใบขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะได้โดยต้องตรวจสอบประวัติอาชญากรรมจากตำรวจเพิ่มเติมด้วยนอกจากนี้ในกฎกระทรวงยังได้กำหนดเครื่องแต่งกายเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและอุปกรณ์ที่จำเป็นเช่นหมวกนิรภัยเป็นต้นและกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างไว้หลายประการเช่นห้ามปฏิเสธการรับจ้างถ้าไม่รับจ้างต้องแสดงเครื่องหมายงดรับจ้าง,ห้ามขับอ้อมและทิ้งผู้โดยสารระหว่างทาง,ไม่ก่อความรำคาญแก่ผู้โดยสาร,ไม่เสพสุราของมึนเมาวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท,ไม่กล่าววาจาไม่สุภาพและกำหนดให้ต้องไปรายงานตัวต่อนายทะเบียนตามหนังสือของผู้ตรวจการเพื่อตรวจหรือทดสอบยาบ้าด้วย
"ผู้ที่ใช้รถจักรยานยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนจะต้องระวางโทษปรับไม่เกิน10,000บาทนอกจากนี้หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวงจะต้องระวางโทษปรับตั้งแต่1,000-10,000บาทแล้วแต่ความผิดด้วย"อธิบดีกรมการขนส่งทางบกกล่าวท้ายที่สุด--จบ--