กรุงเทพฯ--18 ต.ค.--การบินไทย
คณะรัฐมนตรีพิจารณาโครงการจัดหาเครื่องบินตามแผนวิสาหกิจ 2543/44 - 2547/48 ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ซึ่งเป็นโครงการเร่งด่วนที่จะมีส่วนสร้างเสริมและสนับสนุนระบบเศรษฐกิจของประเทศทั้งในด้านการค้า การบริการ การผลิต และการท่องเที่ยว อันจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศโดยรวม แล้วมีมติให้ความเห็นชอบ ดังนี้
1. เห็นชอบให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จัดหาเครื่องบินเพิ่มในระหว่างปี 2543/44 - 2547/48 จำนวน 5 ลำ ในวงเงินลงทุนทั้งสิ้น 31,544 ล้านบาท ประกอบด้วย
1.1 เครื่องบินพิสัยกลาง (Medium Range Aircraft) จำนวน 1 ลำ วงเงินลงทุน 6,183 ล้านบาท
1.2 เครื่องบินพิสัยไกล (Long Range Aircraft) จำนวน 4 ลำ วงเงินลงทุน 25,361 ล้านบาท
2. เห็นชอบให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ดำเนินการตามแผนการเงินและแผนเงินกู้ โดย
2.1 ให้กู้เงินในวงเงินรวมทั้งสิ้นประมาณ 31,544 ล้านบาท สำหรับจัดหาเครื่องบินใหม่ จำนวน 5 ลำ
2.2 ให้ทำการ Refinance เงินกู้เดิมในช่วงระหว่าง 5 ปี เป็นวงเงิน 11,063 ล้านบาท
โครงการดังกล่าวมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. วัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาฝูงบินให้มีความทันสมัย ปลอดภัย มีจำนวนแบบและสมรรถนะที่เหมาะสม ตลอดจนมีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนการใช้งานตามสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตให้สอดคล้องรองรับการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมการบิน และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการปฏิบัติการและการบริหารต้นทุนในการดำเนินการ
2. เป้าหมาย เพื่อขยายตัวของปริมาณการผลิตเฉลี่ยร้อยละ 4.7 ต่อปี เพื่อลดแบบเครื่องบิน เครื่องยนต์ และนักบิน จากปัจจุบัน 8/7/8 ลงเหลือ 7/7/7 แบบ และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการปฏิบัติการบิน การซ่อมบำรุง การบริการภาคพื้น และการจัดตารางการบิน โดยให้มีการใช้งานเครื่องบินโดยเฉลี่ยเป็น 10.30 ชั่วโมงต่อวัน และรักษาความตรงต่อเวลาของเที่ยวบินให้สูงกว่ามาตรฐานในอุตสาหกรรมการบิน รวมทั้งเพื่อรักษาผลกำไรให้คุ้มค่าต่อการลงทุน โดยมีอัตราส่วนของผลกำไรจากการดำเนินงานต่อรายได้โดยเฉลี่ย (Operating Profit Margin) ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 15 ต่อปี
3. ระยะเวลาดำเนินการ ตั้งแต่ปี 2543/44 - 2547/48 รวมทั้งสิ้น 5 ปี โดยมีกำหนดการรับมอบเครื่องบิน ดังนี้
3.1 เครื่องบินพิสัยกลาง จำนวน 1 ลำ จะรับมอบในต้นปี 2546/47
3.2 เครื่องบินพิสัยไกล จำนวน 4 ลำ โดย 2 ลำแรกจะนำเข้ามาในฝูงบินในต้นปี 2544/45 ส่วนที่เหลืออีก 2 ลำ จะรับมอบในต้นปี 2545/46 และต้นปี 2546/47 ตามลำดับ--จบ--
-สส-