กรุงเทพฯ--4 ก.ค.--กสิกรไทย
กสิกรไทยเตรียมรองรับการใช้เงินสกุลยูโร โดยจะงดขายดราฟท์และเช็คเดินทางเป็นเงินสกุลท้องถิ่น 12 ประเทศ พร้อมขายเป็นสกุลยูโรแทน แต่ลูกค้าจะไม่เสียเปรียบอัตราแลกเปลี่ยนกรณีนำไปแลกเป็นสกุลท้องถิ่นในต่างประเทศ ก่อนจะมีการใช้เงินสกุลยูโรจริง 1 ม.ค.2545
นายปราโมทย์ ไชยอำพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากการที่ประเทศในยุโรป 12 ประเทศ ได้แก่ ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย เบลเยี่ยม ฟินแลนด์ กรีก ไอร์แลนด์ ลักเซมเบอร์ก โปรตุเกสและสเปน ได้ตกลงที่จะใช้เงินสกุลยูโร เป็นเงินสกุลเดียวกันในกลุ่มประเทศสมาชิก 12 ประเทศและจะยกเลิกการใช้เงินสกุลท้องถิ่นของแต่ละประเทศตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2545 เป็นต้นไป
ดังนั้นเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการรวมเงินเป็นสกุลเดียวกันของประเทศในยุโรป 12 ประเทศ ธนาคารกสิกรไทยจึงได้แนะนำให้ลูกค้าที่มีการทำธุรกรรมในกลุ่มประเทศดังกล่าวขอให้ทำ ธุรกรรมเป็นเงินสกุลยูโร โดยธนาคารจะงดขายดราฟท์ต่างประเทศสกุลเงินท้องถิ่น 12 สกุลดังกล่าว ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และงดขายเช็คเดินทางต่างประเทศทั้ง 12 สกุล ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2544
ทั้งนี้หลังจากช่วงเวลาดังกล่าว ลูกค้าสามารถซื้อดราฟท์หรือเช็คเดินทางต่างประเทศ เป็นเงินสกุลยูโร แล้วนำไปขึ้นเป็นเงินสกุลท้องถิ่นในประเทศยุโรปทั้ง 12 ประเทศได้ โดยไม่สูญเสียส่วนต่างการแลกเปลี่ยนข้ามสกุลเพิ่มขึ้น เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินสกุลยูโรและเงินสกุลท้องถิ่นเป็นแบบกำหนดตายตัว (Irrevocable Conversion Rate) ที่กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ตลอด นายปราโมทย์ กล่าวว่า สำหรับการรับซื้อหรือรับไว้เพื่อเรียกเก็บตราสารสกุลเงินท้องถิ่นของยุโรป 12 สกุลดังกล่าว ธนาคารจะงดรับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2545 เป็นต้นไป ทั้งนี้ตราสารที่รับซื้อหรือจะเรียกเก็บต้องเป็นตราสารที่ลงวันที่ก่อน 1 มกราคม 2545 เท่านั้น
ทั้งนี้ธนาคารกลางยุโรปจะนำเงินสกุลยูโรที่เป็นเหรียญกษาปณ์และธนบัตรมาใช้จ่ายหมุนเวียนในตลาดจริงตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2545 เป็นต้นไป ส่วนเงินสกุลท้องถิ่นของ 12 ประเทศจะยังคงใช้ได้ต่อไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2545 เป็นวันสุดท้าย และเมื่อถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2545 เงินสกุลเดิมทั้งหมดจะไม่สามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายกสิกรไทยกำหนดเกณฑ์การทำธุรกรรมเงินยูโร--จบ--
-สส-