กรุงเทพฯ--21 พ.ย.--สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
นายวิโรจน์ อมตกุลชัย เลขาธิการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การจัดงานสภาหอการค้าแฟร์ มหกรรมสินค้าคุณภาพทั่วทิศ ในวันที่ 1-11 ธันวาคมนี้ จะช่วยส่งเสริมและกระตุ้นสถานการณ์เศรษฐกิจและการค้าขายของประเทศให้ดีขึ้น สินค้าเด่นของทุกจังหวัดจะมีโอกาสปรากฎสู่สายตาต่างชาติ เป็นการวางรากฐานสนับสนุนสู่การส่งออกในอนาคต
"ช่วงนี้สถานการณ์ส่งออกของไทยสดใส มีการขยายตัวดี เมื่อเทียบ 9 เดือนแรกของปีนี้กับปี 2542ขยายตัวถึง 21.9% ในส่วนดอลล่าร์เทอม และ25% ของเงินบาทซึ่งเป็นอัตราที่น่าพอใจ เงินที่จะสะพัดภายในงานจะมีหลายพันล้านบทท เป็นจุดเริ่มต้นของการเริ่มของธุรกิจผู้ซื้อผู้ขายติดต่อกัน โดยตรงได้ทั้งค้าปลีก และค้าส่งในอนาคต"
การจัดมหกรรมสินค้าคุณภาพได้รับความร่วมมือกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมและศูนย์แสดงสินค้านานาชาติอิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งหวังให้เป็นงานที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย เป็นงานประจำชาติโดยเอกชนที่นำสินค้าเด่น ๆ ทั่วทุกภาคของประเทศเข้าร่วม พร้อมกับหอการค้าจังหวัดที่เข้าร่วมอีก 76 จังหวัด หอการค้าต่างประเทศ 23 แห่ง และสมาคมการค้าอีก 69สมาคม
สินค้าทุกประเภททุกชนิดจากโรงงานทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด รวมทั้งสิ้นค้าประจำชาติอิหร่าน อินเดียและฮ่องกง จะเข้ามาวางให้เลือกจับจ่ายกว่า 1,800 คูหาจุดเด่นของงานคือการอนุรักษ์ศิลปไทยการแสดงนาฏศิลป์ไทย 4 ภาค การสาธิตการทำอาชีพของศูนย์ศิลปาชีพบางไทร การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยของมหาวิทยาลัย 11 แห่งทุกวัน
นายอนันต์ กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริษัทอิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเมนท์ กล่าวว่า ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติอิมแพ็ค เมืองทองธานี เตรียมการรองรับดังกล่าวด้วยการสร้างอาคารอินเตอร์เนชั่นแนลคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ที่มีพื้นที่กว่า 5 หมื่นตารางเมตรด้วยงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท และเพื่อรองรับงานจัดแสดงสินค้าที่จะมีขึ้นในปีหน้าอีก 56 งาน
งานสภาหอการค้าแฟร์จะจัดร่วมกับงานมอเตอร์โชว์ที่จะมีพื้นที่รวมกันกว่า 4,000 คูหารวม 7 หมื่นตารางเมตร คาดว่าจะเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจัดมา รวมทั้งใหญ่กว่างานแสดงสินค้าที่เคยจัดในฮ่องกงหรือสิงคโปร์ คาดว่าจะมีผู้เข้าชมทั้งสองงานเกินกว่า 3 ล้านคนขึ้นไป
"ภายในงานสภาหอการค้าแฟร์ ผู้เข้าชมจะได้ซื้อสินค้าโดยตรงจากผู้ผลิต ถือเป็นการสนับสนุนสินค้าจากต่างจังหวัด สินค้าที่ท้องถิ่นให้มีโอกาสขยาสู่การส่งออกในอนาคต ทั้งยังส่งผลดีในแง่ให้มีการสนับสนุนการใช้วัตถุดิบในประเทศ"--จบ--
-สส-