กรุงเทพฯ--3 พ.ค.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับบิ๊กซี และผงซักฟอกแอทแทค จัด โครงการ
แบ็คทูสคูล ร่วมบริจาคชุดนักเรียนและตำราเรียนแก่โรงเรียนในชนบท รณรงค์การบริจาคชุดนักเรียนและหนังสือเรียนสำหรับนักเรียนในถิ่นทุรกันดารและโรงเรียนที่อยู่ห่างไกล
นางจรวยพร ธรณินทร์ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานเปิด โครงการแบ็คทูสคูล ว่า “โครงการฯ นี้ถือเป็นอีกโครงการที่ภาครัฐและเอกชนมีส่วนร่วมกันในการช่วยเหลือให้กับเด็กนักเรียน ที่ขาดแคลนมีหนังสือสำหรับอ่านเรียนและชุดนักเรียนสวมใส่ นับเป็นการร่วมมือทางสังคมที่สอดคล้องกับ
เจตนารมณ์ของการปฏิรูปการศึกษาที่ต้องการรวมพลังจากทุกหน่วยงานในการสนับสนุนให้เด็กไทยมีความรู้
ความสามารถและสามารถดำรงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันนี้”
ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน ได้ร่วมกับบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) มูลนิธิบิ๊กซี และบริษัท คาโอ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด จัดทำโครงการ แบ็คทูสคูล ขึ้น เพื่อเชิญชวนให้ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคชุดนักเรียนและหนังสือเรียนเพื่อนำไปมอบให้กับนักเรียน ในถิ่นทุรกันดารและโรงเรียนที่อยู่ห่างไกล
นางบุญศรี สุธรรมานุวัฒน์ ผู้อำนวยการมูลนิธิบิ๊กซี เปิดเผยว่า มูลนิธิบิ๊กซี และบริษัทฯ ได้จัดโครงการ แบ็คทูสคูลมาอย่างต่อเนื่องทุกปีตั้งแต่ปี 2546 โดยในปีนี้ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการมอบโอกาสให้เยาวชนไทยในถิ่นทุรกันดารได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง สำหรับปีนี้นอกจากจะร่วมกับกศน.และแอทแทคแล้ว บิ๊กซี ยังได้เชิญเด็กหญิงชลนิภา แสงทอง หรือ น้องมายด์ - เด็กดอยใจดี เป็นตัวแทนโครงการในการรณรงค์การรับบริจาคชุดนักเรียนและหนังสือเรียนแก่เพื่อนๆ ในวัยเดียวกันที่อยู่ห่างไกลทั่วประเทศ
“บิ๊กซี มีความเชื่อว่า สังคมที่มีคุณภาพคือรากฐานที่สำคัญของการพัฒนาประเทศ และการศึกษาของเยาวชนก็คือปัจจัยสำคัญในการเสริมสร้างรากฐานดังกล่าว เราจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการฯ นี้จะมีส่วนช่วยให้เยาวชนไทยในถิ่นทุรกันดารได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง เพื่อที่จะได้เติบโตเป็นประชากรที่มีคุณภาพต่อไปในอนาคต
เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการนี้จะได้รับการตอบรับอย่างดีจากประชาชนผู้มีจิตศรัทธา” ผู้อำนวยการมูลนิธิบิ๊กซี กล่าวเสริม
นายอุฤทธิ์ บุญมาก ผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) เปิดเผยว่า กศน. ซึ่งมีสำนักงานอยู่ทั่วประเทศจะประสานงานกับบิ๊กซี ซึ่งเป็นสื่อกลางในการรับบริจาคชุดนักเรียนและหนังสือเรียน เพื่อนำไปมอบให้กับนักเรียนและโรงเรียนที่อยู่ห่างไกล เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนไทยได้รับความรู้จากการอ่านหนังสือ พร้อมด้วยปัจจัยเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งปัจจุบัน ยังมีครอบครัวและเยาวชนไทยในพื้นที่ห่างไกลจำนวนมากมีความตื่นตัวต่อการพัฒนาการศึกษาอย่างเห็นได้ชัด หากแต่ยังขาดปัจจัยสนับสนุนขั้นพื้นฐาน โครงการนี้จึงนับเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาทางการศึกษาแก่นักเรียนและโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร
นางสาวปริยานุช ณ ตะกั่วทุ่ง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “โครงการแบ็คทูสคูล ในปี 2547 ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยได้รับความร่วมมืออย่างดีจากบริษัท คาโอ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด ได้ร่วมบริจาคให้กับมูลนิธิบิ๊กซี จำนวน 200,000 บาท และในปีนี้ คาโอจะมอบผลิตภัณฑ์ผงซักฟอกแอทแทค ปริมาณ 100 กรัม มูลค่า 12 บาท เป็นของสมนาคุณให้กับประชาชนทุกท่านที่มาบริจาคชุดนักเรียนหรือหนังสือเรียนที่บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ 41 สาขาทั่วประเทศ ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ก็จะบริจาคเงินทุก 1 บาทให้กับผู้บริโภคที่ซื้อผลิตภัณฑ์แอทแทคขนาดใดก็ได้ 1 ชิ้น
เพื่อมอบให้แก่มูลนิธิฯ ไปจัดหาอุปกรณ์การเรียนให้แก่โรงเรียนในชนบทต่อไป”
ทั้งนี้ โครงการแบ็คทูสคูล ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาบริจาคชุดนักเรียนและหนังสือเรียนที่ใช้แล้ว หรือสามารถ หาซื้อชุดนักเรียนและหนังสือเรียนใหม่ที่บิ๊กซีทุกสาขา เพื่อนำมาบริจาคให้กับโครงการ ณ จุดรับบริจาคในบิ๊กซี ทุกสาขาได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 15 พ.ค. นี้ นอกจากนี้ ผู้บริโภคสามารถจับจ่ายอุปกรณ์การเรียน และชุดเครื่องเขียนครบวงจรคุณภาพดี ราคาประหยัด เพื่อต้อนรับเปิดเทอมใหม่ได้แล้ววันนี้ที่บิ๊กซีทุกสาขาทั่วประเทศ
รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อ:
สาธิดา ศรีธัญญาธรณ์ หรือ ณัฏฐกานต์ แช่มสุวรรณวงศ์
อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
โทร. 0 2252 9871--จบ--
- พ.ย. ๒๕๖๗ กลุ่มทรู จัดแคมเปญ “Together Forever” เอาใจคู่รัก รับวันวาเลนไทน์ ชวนคู่หวานเปิดเบอร์ใหม่เสริมดวงความรัก จากทรูมูฟ เอช พร้อมรับฟรี บัตรภาพยนตร์True 4DX มูลค่า 1,200 บาท
- พ.ย. ๒๕๖๗ ภาพข่าว: กรมการค้าภายในเยี่ยมชมกิจการ “ร้านติดดาว” โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตร้านค้าปลีกของกลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์
- พ.ย. ๒๕๖๗ ประเทศไทยจัดงานประชุมนานาชาติเรื่องโรคเอดส์ ใช้ Live Streaming ถ่ายทอดสดการประชุมเป็นครั้งแรกแก่บุคลากรทางการแพทย์