กรุงเทพฯ--21 ธ.ค.--กทม.
เมื่อวานนี้ (20 ธ.ค. 43) เวลา 17.00 น. นายสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิดสวนสาธารณะวังทอง 1 และสวนชานบ้าน( mini park) วังทอง 2 ในซอยลาดพร้าว 71 เขตวังทองหลาง โดยมีนางพิมลรัตน์ วงษ์รักษ์ ผู้อำนวยการเขตวังทองหลาง ข้าราชการ ลูกจ้างและประชาชนในพื้นที่เขตวังทองหลางร่วมในพิธีเปิด
ผู้อำนวยการเขตวังทองหลางกล่าวว่า สำหรับสวนสาธารณะวังทอง 1 และสวนชานบ้านวังทอง 2 เป็นที่ดินสาธารณะสมบัติของแผ่นดินที่ได้มาตามคำพิพากษาของศาลฎีกา อยู่ระหว่างซอยลาดพร้าว 71 และซอยลาดพร้าว 73 ถนนลาดพร้าว เขตวังทองหลาง มีเนื้อที่แปลงละประมาณ 1 ไร่ ทางสำนักงานเขตฯได้ปรับปรุงที่ดินทั้งสองแห่งโดยปลูกต้นไม้และตกแต่งสวนให้เป็นสวนสาธารณะและลานกีฬาอเนกประสงค์เพื่อให้ประ ชาชนใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย และเล่นกีฬา อีกทั้งยังส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยเปิดให้ประชาชนเข้ามาใช้ตั้งแต่ปี 2542 เป็นต้นมา ซึ่งทางสำนักงานเขตฯได้จัดกิจกรรมออกกำลังกายเพื่อสุขภาพสำหรับประชาชน ในลักษณะการเต้นแอโรบิค โดยจัดวิทยากรช่วยฝึกสอนให้เป็นประจำทุกวันอังคารและพฤหัสบดีจนถึงปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวของผู้ว่าราชการกทม. โดยการขอใช้หรือเช่าพื้นที่ว่างของเอกชนในราคาถูกเพื่อจัดทำเป็นสวนชานบ้าน( mini park) สำนักงานเขตวังทองหลางจึงได้ดำเนินการปรับปรุงสวนสาธาณะวังทอง 2 ให้มีลักษณะและรูปแบบของสวนชานบ้าน โดยพื้นที่ดังกล่าวมีทั้ง ลานอเนกประสงค์ สวนสุขภาพสำหรับออกกำลังกาย และมุมพักผ่อนหย่อนใจ สำหรับคนทุกเพศทุกวัยที่จะสามารถมาใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งจะเป็นสวนชานบ้านแห่งที่ 2 ในพื้นที่เขตวังทองหลาง ที่ทางสำนักสวัสดิการสังคมได้ทำนำร่องไว้แห่งแรกที่ชุมชนหมู่บ้านพลับพลา และต่อไปจะดำเนินการในลักษณะเดียวกันอีก 1 แห่งคือ ลานกีฬาใต้ทางด่วนอาจณรงค์-รามอินทรา
ผู้ว่าราชการกทม.กล่าวว่า เป็นความโชคดีของประชาชนในพื้นที่เขตวังทองหลางที่มี สถานที่ออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจ และนันทนาการต่างๆ ทั้งนี้ตนได้กำหนดนโยบายการปลูกต้นไม้และเพิ่มพื้นที่สีเขียวในพื้นที่เขตชั้นในไว้ โดยจะปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ครบ 1,000,000 ต้น ภายในปี 2547 โดยปลูกเฉลี่ยปีละ 100,000 ต้น (พ.ค.-ต.ค.) จัดทำสวนในพื้นที่เขตชั้นใน จัดทำสวนในพื้นที่ว่างของราชการ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน ปลูกต้นไม้ที่ว่างริมทางตลอดทั้งปี ตลอดจนการตัดแต่งต้นไม้ยืนต้นให้เรียบร้อยสวยงาม โดยให้ทุกสำนักงานเขตดำเนินการตามแนวทางเดียวกัน เช่น ถนนสายเดียวกันควรปลูกต้นไม้ชนิดเดียวกัน เลือกพันธุ์ไม้ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ พื้นที่ใต้สะพาน ใต้ทางด่วนควรใช้พันธุ์ไม้ชนิดอยู่ในร่มได้ ฯลฯ ที่สำคัญควรดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ
ทั้งนี้ นอกจากนโยบายการเพิ่มพื้นที่สีเขียวแล้ว ยังมีนโยบายที่ควบคู่กันไปคือ ลานกีฬา เพื่อให้เยาวชนและประชาชนมีสถานที่ออกกำลังกาย พักผ่อน ใช้เวลาว่างกับกิจกรรมต่างๆ ตามความต้องการ สร้างสรรค์กิจกรรมทางสังคมให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ชุมชนของตน เพื่อประโยชน์ในการป้องกันปัญหาทางสังคม เช่น ปัญหายาเสพติด อบายมุข อาชญากรรม ฯลฯ อีกทั้งให้ลานกีฬาเป็นศูนย์ย่อยในการส่งเสริมสนับสนุนนิเทศน์งานด้านการกีฬา นันทนาการ พื้นฐานอาชีพ ซึ่งสามารถนยกระดับฐานะเป็นชมรม สโมสร ศูนย์เยาวชนหรือชุมชนต่อไปในอนาคตได้--จบ--
-นศ-