ตลาดหลักทรัพย์รับบริษัท"บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพฯ" เข้าจดทะเบียนในกลุ่มพลังงาน

จันทร์ ๑๒ มีนาคม ๒๐๐๑ ๑๑:๔๘
กรุงเทพฯ--12 มี.ค.--ตลท.
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยรับบริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS บริษัทเดียวที่ได้รับสิทธิจากรัฐบาลไทยในการทำธุรกิจจัดเก็บ และให้บริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงแก่อากาศยานทุกประเภทและทุกเที่ยวบิน ณ ท่าอากาศยานกรุงเทพฯ เป็นบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มพลังงาน
นายวิชรัตน์ วิจิตรวาทการ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ได้มีมติอนุมัติในหลักการให้รับหลักทรัพย์ของบริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มพลังงาน "BAFS นับเป็นบริษัทที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนเนื่องจาก BAFS ดำเนินธุรกิจที่ความจำเป็นอย่างยิ่งต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งในด้านธุรกิจการบิน การท่องเที่ยว และการส่งออก นอกจากนี้ บริษัทฯยังเป็นตัวอย่างที่ดีตัวอย่างหนึ่งของการมีระบบการกำกับดูแลกิจการที่ดี ทั้งจากการจัดระบบการควบคุมภายในและการตรวจสอบภายใน ซึ่งได้รับการรับรองจากหน่วยงานภายนอกอีกด้วย BAFS จึงนับเป็นหลักทรัพย์ที่น่าสนใจหลักทรัพย์หนึ่งที่จะเป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนในอนาคต"
BAFS เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนตามเกณฑ์กำไรสุทธิซึ่งกำหนดว่าจะต้องมีกำไรในปีล่าสุดก่อนยื่นคำขอไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งเป็น 1 ใน 3 หลักเกณฑ์ของเกณฑ์ทั่วไปในการรับหุ้นสามัญเข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน โดยในปี 2542 BAFS มีกำไรสุทธิจำนวน 216 ล้านบาท ปัจจุบัน BAFS มีทุนชำระแล้วทั้งสิ้น 250 ล้านบาท เป็นหุ้นสามัญจำนวน 25 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท และจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไป (Initial Public Offering : IPO) อีกจำนวน 9 ล้านหุ้น รวมเป็นทุนชำระแล้วที่จะนำเข้าจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์จำนวน 340 ล้านบาท และจะมีสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนโดยสมบูรณ์และพร้อมเปิดให้ซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทฯ ในตลาดหลักทรัพย์ได้ หลังจากที่ได้ดำเนินการกระจายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นรายย่อยครบถ้วนภายในเวลา 6 เดือน นับจากวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2544 ซึ่งเป็นวันที่บริษัทฯ ได้รับแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์ว่ามีคุณสมบัติเบื้องต้นครบถ้วนสามารถเข้าจดทะเบียนได้
หม่อมราชวงศ์ศุภดิศ ดิศกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BAFS) กล่าวว่า "บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BAFS) เป็นบริษัทเดียวที่ได้รับสิทธิจากรัฐบาลไทยในการดำเนินธุรกิจจัดเก็บ และให้บริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงแก่อากาศยานทุกประเภทและทุกเที่ยวบิน ณ สนามบินดอนเมือง จากนโยบายการเปิดเส้นทางการบินเสรีของรัฐบาล ทำให้เรามั่นใจใน
การดำเนินธุรกิจของ BAFS ที่มีแนวโน้มว่าจะมีการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานที่คาดว่าจะสูงขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีแผนการลงทุนอีกหลายโครงการ ได้แก่โครงการระบบท่อส่งน้ำมันอากาศยาน โครงการก่อสร้างคลังน้ำมันอากาศยานและ โครงการลงทุนเป็นผู้ประกอบการเติมน้ำมันอากาศยาน ในบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ นอกจากนี้ ยังจะมีการขยายธุรกิจไปสู่การลงทุนที่สนามบินอื่น ๆ ภายในประเทศ เพื่อให้ธุรกิจการเติมน้ำมันอากาศยานมีความมั่นคงด้วย ที่สำคัญบริษัทฯดำเนินงานแบบมืออาชีพและมีมาตรฐานสากล เป็นที่ยอมรับของสายการบินนานาชาติทั่วโลก รวมทั้ง ยังได้รับการรับรองระบบคุณภาพมาตรฐานสากล ISO 9002 โดยสถาบันรับรองนานาชาติ บูโรเวอริตัส (BVQI) ซึ่งให้การรับรองว่าเป็นบริษัทที่ให้บริการที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล ตั้งแต่ปี 2539 เป็นต้นมา นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัลจากการประกวดการปฏิบัติอันเป็นเลิศเชิงบรรษัทภิบาล ประเภทธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือ SMEs ประจำปี 2543 จากสมาคมผู้ตรวจสอบภายในแห่งประเทศไทยด้วย ทั้งนี้ บริษัทฯคาดว่าภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแล้วเสร็จในปี 2544 บริษัทฯจะมีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็น 1,942 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้นเป็น 1,721 ล้านบาท และจะมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 0.13 เท่า ซึ่งจะทำให้บริษัทมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะดำเนินโครงการในอนาคตได้เป็นอย่างดี"
หลังการกระจายหุ้นโดยการเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปแล้ว BAFS จะต้องมีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวนไม่ต่ำกว่า 600 ราย ซึ่งถือหุ้นรวมกันจำนวนไม่ต่ำกว่า 6.8 ล้านหุ้น (เท่ากับร้อยละ 20 ของทุนชำระหลังการกระจายหุ้น) โดยหุ้นของผู้บริหารและผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจควบคุมหรือมีอิทธิพลในการบริหารงาน จำนวนรวมกันเท่ากับร้อยละ 35 ของทุนชำระแล้วหลังเสนอขายหุ้นต่อประชาชน (340 ล้านบาท)จะอยู่ในช่วงเวลาห้ามขายหุ้นหรือ Silent Period เป็นเวลา 6 เดือน
บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิจากรายได้ทางตรง (รายได้จากการเติมน้ำมันอากาศยาน) ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2540 ถึง 9 เดือนแรกของปี 2543 (มกราคม - กันยายน) บริษัทมีรายได้จากการเติมน้ำมันที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ เท่ากับ 631, 758, 692 และ 563 ล้านบาท อย่างไรก็ตามบริษัทยังสามารถรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นประมาณร้อยละ 54-60 มาตลอด โดยมีอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยร้อยละ 26
สำหรับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ประกอบด้วย บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ร้อยละ 31 สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ร้อยละ 11 การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ร้อยละ 6.72 และบริษัทผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ 6 แห่ง ถือหุ้นรวมกันร้อยละ 48
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อส่วนประชาสัมพันธ์ ฝ่ายสารนิเทศ
ลดาวัลย์ ไทยธัญญพานิช โทร. 229 - 2036
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร.229 - 2037
จิวัสสา ติปยานนท์ โทร. 229 - 2039--จบ--
-อน-

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version