บีโอไอชวนนักลงทุนร่วมสัมมนา "โอกาสและลู่ทางการลงทุนในกลุ่มประเทศสมาชิกใหม่ของอาเซียน"

กรุงเทพฯ--23 เม.ย.--บีโอไอ
บีโอไอร่วมสภาหอการค้าไทย หอการค้าไทย และสภาอุตฯ จัดสัมมนา "โอกาสและลู่ทางการลงทุนในกลุ่มประเทศสมาชิกใหม่ของอาเซียน"เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาด้านการค้าการลงทุนในภูมิภาคให้มากขึ้น พร้อมเชิญชวนนักลงทุนและผู้ที่สนใจเข้าร่วม เพื่อนำข้อมูลไปสร้างโอกาสในการลงทุนต่อไป
นายสมพงษ์ วนาภา ที่ปรึกษาด้านการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า บีโอไอ ร่วมกับสภาหอการค้าไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จะร่วมกันจัดงานสัมมนาเรื่อง "โอกาสและลู่ทางการลงทุนในกลุ่มประเทศสมาชิกใหม่ของอาเซียน" ในวันศุกร์ที่ 27 เมษายน 2544 ตั้งแต่เวลา 08.30-12.30 น. ณ ห้องวอเตอร์เกท บอลรูม ชั้น 6 โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ
สำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดงานสัมมนาครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างประเทศไทยและกลุ่มประเทศสมาชิกใหม่ของอาเซียน ซึ่งประกอบด้วย ประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม โดยมีผู้แทนระดับสูงจากภาคราชการของแต่ละประเทศ ตลอดจนนักธุรกิจจากกลุ่มประเทศอาเซียนอื่นๆ เข้าร่วมงานสัมมนาดังกล่าวด้วย
นายสมพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานฯ ในฐานะที่เป็นหน่วยงานหลักในการจัดสัมมนาครั้งนี้ เห็นว่า ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศต่างๆ ของอาเซียน โดยเฉพาะกลุ่มประเทศสมาชิกใหม่นี้ เป็นสิ่งจำเป็นและจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะเสริมสร้างการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ต่อไป
ทั้งนี้ ในปัจจุบัน บริษัทไทยจำนวนมากได้เข้าไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้แล้ว เพื่อขยายตลาดและรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกของตนไว้ เนื่องจากต้นทุนการผลิตในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้น จึงจำเป็นต้องแสวงหาแหล่งลงทุนที่ทีต้นทุนต่ำกว่าและเป็นแหล่งวัตถุดิบได้ ซึ่งโครงการลงทุนของไทยในประเทศกลุ่มประเทศสมาชิกใหม่ของอาเซียนเหล่านี้ ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยไทยเป็นนักลงทุนอันดับหนึ่งในลาว และเป็นนักลงทุนอันดับต้นๆในเมียนมาร์ และกัมพูชา
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการลงทุนของไทยจะซบเซาลงไปบ้างหลังจากวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจเมื่อปี 2540 แต่ปัจจุบัน การลงทุนไทยในต่างประเทศก็เริ่มกระเตื้องขึ้น และในโอกาศที่ประเทศในกลุ่มอาเซียนใหม่เหล่านี้ได้ปรับตัวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยมาตรการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศใหม่ๆหลายประการ จึงเป็นโอกาสดีที่นักธุรกิจไทยและผู้สนใจทั่วไปจะได้รับทราบข้อเท็จจริงและพบปะเจรจากับผู้แทนระดับสูงซึ่งรับผิดชอบการลงทุนจากต่างประเทศของทั้ง 4 ประเทศนี้โดยตรง อีกทั้งรับฟังความคิดเห็นด้านกฏหมายและประสบการณ์อันหลากหลายจากนักธุรกิจไทยที่เข้าไปประกอบกิจการแล้วในประเทศเหล่านี้
ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองการต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน โทรศัพท์ 5378111 ต่อ 1111-9 หรือ สายงานกิจกรรมระหว่างประเทศ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โทรศัพท์ 6221860-70 ต่อ 612 และ 213 โดยเสียค่าลงทะเบียนท่านละ 500 บาท--จบ--
-นห-