"ชวาร์สคอฟ"รุกตลาดทำสีผม-หวังแบ่งเค้ก1,000 ล.

จันทร์ ๐๕ กุมภาพันธ์ ๒๐๐๑ ๑๖:๐๓
กรุงเทพฯ--5 ก.พ.--เบรคธูร พีอาร์
เปิดแผนยักษ์เยอรมนี ชวาร์สคอฟ-เฮงเค็ล กรุ๊ป รุกตลาดผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม มูลค่า 1,000 ล้านบาท หลังบริษัทแม่ไฟเขียว เพิ่มงบลงทุนด้านการตลาดในประเทศไทย ระบุปี 2544 ลอนช์สินค้าใหม่ 5-7 ราย ทั้งช่องทางค้าปลีกและร้านเสริมสวย พร้อมออกสินค้าใหม่รุกตลาดซาลอนกลุ่มเอคลาส ตั้งเป้าโตอย่างน้อย 20%
นายไบรอัน สเมิร์ทเวท ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เฮงเค็ลไทย (1999) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่สินค้าภายใต้แบรนด์ เนม "ชวาร์สคอฟ" เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยโดยผ่านบริษัทตัวแทนจำหน่ายมากว่า 30 ปีนั้น ในช่วงกลางปี 2542 กลุ่มชวาร์สคอฟ-เฮงเค็ลกรุ๊ป ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นบริษัทแม่ได้เปลี่ยนนโยบายยกเลิกการขายผ่านบริษัทตัวแทนจำหน่ายมาลงทุนเอง โดยการก่อตั้งบริษัท เฮงเค็ลไทย (1999) จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท มีบริษัท เฮงเค็ล เคจีเอเอ จำกัด เป็นผู้ถือหุ้น 100% โดยมีเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์สีผมไปประเทศไทยอย่างจริงจัง
ซึ่งหลังจากการปรับตัวดังกล่าว ปี 2543 ถือว่าเป็นปีที่สำคัญของบริษัท เพราะมีการปรับโครงสร้างในหลายๆ ด้าน อาทิ สินค้าที่มีการ รีลอนช์ใหม่ มีการทำโฆษณาสร้างแบรนด์ มีกิจกรรมส่งเสริมการขาย จัดโปรโมชั่น ฯลฯ และได้ผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจ ยอดขายของบริษัทมีการเติบโตสูงขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปี 2542
"และส่งผลมาปี 2544 นี้ ที่บริษัทมีการเพิ่มงบลงทุน 80% เพื่อใช้ในการโฆษณาประชา สัมพันธ์ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การแนะนำผลิต ภัณฑ์ใหม่ ฯลฯ โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มยอดขายให้สูงขึ้นจากปี 2543 อีกอย่างน้อย 20%" นายไบรอันกล่าว และว่า สาเหตุที่บริษัทให้ความสนใจเข้ามาลงทุนประเทศไทย เนื่องจากมองเห็นโอกาสในด้านจำนวนประชากรที่มากกว่า 60 ล้านคน ซึ่งถือเป็นฐานตลาดที่ใหญ่ ขณะเดียวกันด้านพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยก็ให้ความสำคัญในด้านการบำรุงรักษาเส้นผม ซึ่งสอดคล้องกับผลิต ภัณฑ์ของบริษัท
"การตัดสินใจเข้ามาลงทุนเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับนโยบายของรัฐบาล หรือเชื่อมั่นในรัฐบาลใหม่ สิ่งสำคัญที่สุดคือ เรามั่นใจในคุณภาพของสินค้าที่จะเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค และมีประสิทธิภาพในการแข่งขัน ซึ่งจะเห็นว่า ในปี 2543 ที่สภาพ เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นเท่าไร แต่บริษัทก็ยังมีการเติบโตด้านยอดขายได้ถึง 20% และนับแต่นี้ไปปี 2544-2545 บริษัทก็ยังจะให้ความสำคัญกับประเทศไทย ในด้านการลงทุนอย่างต่อเนื่อง"
สำหรับกลยุทธ์ในการทำตลาดปี 2544 นายไบรอันกล่าวว่า บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการทำตลาดผ่าน 2 ช่องทางหลัก คือ 1.ช่องทางค้าปลีกทั่วไป อาทิ ซูเปอร์มาร์เก็ต ดิสเคานต์สโตร์ ฯลฯ และ 2.ช่องทางร้านเสริมสวย โดยการมีแบรนด์สินค้าที่วางเฉพาะช่องทางที่จะไม่เหมือนกัน
กล่าวคือ สินค้าที่ขายผ่านช่องทางค้าปลีก ได้แก่ ครีมเปลี่ยนสีผม "พาเลตต์" ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม "ทัฟท์ เอ็กซ์เพรส" และ อีโกร่า คัลเลอร์ส และแชมพูและครีมนวดผมคอนซิล และจะลอนช์สินค้าใหม่อีก 2-3 รายการ
"พาเลตต์, ทัฟท์ เอ็กซ์เพรส และ อีโกร่า คัลเลอร์ส เป็นสินค้าที่บริษัทได้มีการรีลอนช์เมื่อปลายปีที่แล้ว และจะทำตลาดอย่างจริงจังในปีนี้ ในทุกรูปแบบ อาทิ การจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย แจกของพรีเมี่ยม หรือการใช้กลยุทธ์ราคา" นายไบรอันกล่าวและว่า ตลาดผลิตภัณฑ์สีผมในช่องทางค้าปลีกมีการแข่งขันที่รุนแรง ไม่แพ้สินค้าอื่นๆ เพราะฉะนั้นนอกเหนือจากกลยุทธ์การตลาดรูปแบบต่างๆ ที่ต้องใช้แล้ว โดยคุณภาพสินค้าต้องดี ซึ่งจุดนี้บริษัทมีความมั่นใจเพราะมีเทคโนโลยีพร้อม
ส่วนช่องทางขายผ่านร้านเสริมสวย ก็มี โบนาเคียว ผลิตภัณฑ์ดูแลจัดแต่งทรงผม ที่มีเฉดสีกว่า 40 รายการ ฯลฯ และจะมีสินค้าใหม่อีกประมาณ 3-4 รายการ ที่จะออกในปีนี้
"การขายผ่านร้านเสริมสวย ถือเป็นธุรกิจหลักของเรา สามารถทำรายได้ประมาณ 60-70% ของรายได้ทั้งหมด ปีนี้ยังคงให้ความสำคัญในด้านการเพิ่มยอดขาย การขยายเอาต์เลต รวมถึงมีแผนที่จะออกสินค้าใหม่เพื่อรุกตลาดร้านเสริมสวยกลุ่มเอคลาส เพิ่มขึ้นอีกด้วย เพื่อการเป็นแชมป์ในตลาดนี้อย่างสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น" นายไบรอันกล่าวและว่าในยุโรป ชวาร์สคอฟ เป็นแบรนด์ที่รู้จัก และจัดอยู่ในอันดับ 3 ส่วนช่องทางขายผ่านร้านเสริมสวย เป็นแบรนด์ที่ติดอันดับ 3 ของโลก
อนึ่ง ตลาดผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมในเมืองไทย มีมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท มีคู่แข่งรายใหญ่ในตลาด หลายราย อาทิ ลอรีอัล ยูนิลีเวอร์ เวลล่า ฯลฯ ที่ต่างมีศักยภาพในการแข่งขัน ทำให้ในปีนี้ตลาดนี้จะมีการแข่งขันที่สูง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการชิงส่วนแบ่งการตลาดของกันและกัน เพราะด้านการเติบโตของตลาดมีประมาณ 5-10% ในแต่ละช่องทาง ซึ่งน้อยกว่าเป้าหมายการขยายตลาดของแต่ละบริษัท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
คุณประภาพร นามวงษ์
โทร. 719-6446-8
โทรสาร 716-6649--จบ--
-อน-

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version