กรุงเทพฯ--24 พ.ค.--ออโต้ไทยแลนด์ดอทคอม
นายศุภวัส พันธุ์วัฒน์ รองประธานผู้บริหาร บริษัท ยัวซ่าแบตเตอรี่ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในอนาคตเมื่อข้อตกลง อาฟต้า มีผลบังคับใช้แล้วนั้นจะทำให้อัตราภาษีนำเข้าแบตเตอรี่เท่ากับ 0% ซึ่งจะส่งผลดีต่อการส่งออก ทั้งนี้ทางยัวซ่า ประเทศไทย ได้มีการพิจารณาร่วมกับ บริษัท ยัวซ่า มอเตอร์ส ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัทแม่ เพื่อพิจารณาว่า บริษัท ยัวซ่า ใดประเทศ ที่มีความสามารถ และประสิทธิภาพในการผลิตแบตเตอรี่ แต่ละประเภทสำหรับประเทศไทย คาดว่า โรงงานยัวซ่าในไทยจะเป็นฐานการผลิตแบตเตอรี่รถจักรยานยนต์ เนื่องจากปัจจุบันยัวซ่ามีกำลังการผลิตและส่วนแบ่งตลาด แบตเตอรี่ รถจักรยานยนต์ เป็นอันดับหนึ่ง โดยในส่วนของโรงงานประกอบรถยนต์หรือ โออีเอ็ม นั้น ยัวซ่ามีส่วนแบ่งตลาดถึง 80% ในขณะที่ตลาดทดแทน หรือ อาฟเตอร์ มาร์เก็ต นั้นมีส่วนแบ่งตลาด 25%"ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการพิจารณา สำหรับไทยนั้น เราคาดว่าจะได้เป็นการผลิตแบตเตอรี่จักรยานยนต์เพราะปัจจุบันโรงงานประกอบฮอนด้ารับแบตเตอรี่ยัวซ่า 100% ซึ่งฮอนด้าเป็นผู้นำในตลาดมอเตอร์ไซค์อยู่แล้ว และที่สำคัญในอนาคต แนวโน้มการใช้แบตเตอรี่จะเปลี่ยนไปจากที่แบตเตอรี่ธรรมดาที่ต้องเติมน้ำเพิ่ม จะเปลี่ยนมาเป็นแบบแมนเทอแนนซ์ ฟรี ซึ่งมีเพียงประเทศไทยเท่านั้นที่ผลิตได้" นายศุภวัส กล่าวนายศุภวัส กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวบริษัทคาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดแบตเตอรี่ จักรานยนต์ 2.4 ล้านลูก และในกลางปี 2545 บริษัทจะเปิดโรงงานเพิ่มอีก 1 แห่ง--จบ--
-สส-