กรุงเทพฯ--24 พ.ย.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
บริษัท เดลล์ คอมพิวเตอร์ คอร์ปอเรชั่นประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 3 สิ้นสุด ณ วันที่ 27 ตุลาคม 2543 โดยยอดขายผลิตภัณฑ์
ระดับเอ็นเตอร์ไพรส์และเครื่องโน้ตบุ๊คเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 40 ทั้งด้านยอดการจัดส่งต่อหน่วย รายได้ รายได้จากการดำเนินงาน กำไรสุทธิ
กำไรต่อหุ้น และผลตอบแทนจากการลงทุนในส่วนทุน
เดลล์มีรายได้สุทธิ 8,300 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 22 ซึ่งนับเป็นรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่าง ต่อเนื่องติดต่อกันมาเป็นไตรมาสที่
27 และด้วยยอดขายผลิตภัณฑ์ระดับไฮ-เอ็นด์ที่ดีดตัวสูงขึ้น ส่งผลให้เดลล์มีผลกำไรสุทธิ 674 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 40 และมีกำไร
ต่อหุ้น 25 เซ็นต์ ซึ่งตัวเลข ดังกล่าวไม่รวมค่าเข้าซื้อกิจการมูลค่า 194 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ไตรมาส 3 ข้อมูลต่อปีจนถึงปัจจุบัน
(หน่วย: ล้านเหรียญ ยกเว้นตัวเลข ปีการเงิน ปีการเงิน เปลี่ยนแปลง ปีการเงิน ปีการเงิน เปลี่ยนแปลง
กำไรต่อหุ้น) 2544 2543 2544 2543
รายได้ $8,264 $6,784 22% $23,214 $18,463 26%
รายได้จากการดำเนินงาน* $818 $650 26% $2,179 $1,944 12%
กำไรสุทธิ* $674 $483 40% $1,802 $1,424 27%
กำไรต่อหุ้น* $0.25 $0.18 39% $0.66 $0.52 27%
ผลตอบแทนจากการลงทุน 316% 281% - - - -
ในส่วนทุน*
* ตัวเลขในปี 2543 ไม่รวมค่าซื้อกิจการหน่วยวิจัยและพัฒนา 194 ล้านเหรียญ
นายไมเคิล เดลล์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดลล์ คอมพิวเตอร์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า "เดลล์มียอดจัดส่งเครื่อง
เซิร์ฟเวอร์และโน้ตบุ๊คทั่วโลกเพิ่มขึ้นรวดเร็วกว่าอุตสาหกรรมโดยรวม โดยมีส่วนแบ่งการตลาดในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นกว่า 1 จุด และก้าวสูงขึ้นจนเกือบ
ครองตำแหน่งอันดับหนึ่งในตลาด ผลิตภัณฑ์ทั้งสองประเภท" และเสริมว่า "สำหรับเครื่องเซิร์ฟเวอร์นั้น เรามีอัตราการเติบโตต่อหน่วยเป็นสองเท่า
ของคู่แข่งรายใหญ่ที่สุด ในขณะที่ยอดขายเครื่องโน้ตบุ๊คในช่วงสี่ไตรมาสที่ผ่านมาพุ่งสูงถึง 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 57"
นายเดลล์กล่าวต่อไปอีกว่า เดลล์ใช้ระบบขายตรงซึ่งเป็นวิถีทางทำธุรกิจที่มีเอกลักษณ์พิเศษโดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และยังคงนำระบบ
ดังกล่าวมาใช้กับผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ของบริษัทอย่างต่อเนื่อง เดลล์มียอดจัดส่งเครื่องเซิร์ฟเวอร์และโน้ตบุ๊คเพิ่มขึ้น 15 จุด ซึ่งสูงกว่าอัตราเฉลี่ย
ของอุตสาหกรรมโดยรวม นอกจากนี้ ยอดรายได้จากการบริการและอุปกรณ์เสริมในไตรมาสนี้มีมูลค่า 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา
ร้อยละ 25 และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมาร้อยละ 14 ทั้งนี้ เดลล์มีรายได้จากบริการด้านต่างๆ สูงถึง 665 ล้านเหรียญ
"รายได้กว่าร้อยละ 50 และสองในสามส่วนของกำไรจากการดำเนินงานมาจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระดับเอ็นเตอร์ไพรส์ เครื่องโน้ตบุ๊ค
และบริการต่างๆ" นายเดลล์กล่าว และเสริมว่า "ประวัติศาสตร์กำลังเดินกลับมาซ้ำรอยเดิม เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับเครื่องพีซีเดสก์ทอปมาก่อน
ซึ่งลูกค้าผลิตภัณฑ์และบริการระดับไฮ-เอ็นด์ได้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์และบริการดังกล่าวโดยตรงจากเดลล์"
ด้วยระบบขายตรงที่มีประสิทธิภาพ ทำให้เดลล์สามารถมอบสินค้าและบริการต่างๆ ให้แก่ลูกค้าในราคาที่ถูกลง ทั้งยังมีอัตรากำไรเบื้องต้น
เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 21.3 นอกจากนี้ เดลล์ยังมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 11.4 ของรายได้โดยรวม ซึ่งลดลงติดต่อกันเป็นไตร
มาสที่สอง และมีกำไรสุทธิคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 8.2 ของยอดขาย โดยเพิ่มขึ้น 1.1 จุด
จากผลประกอบการอันยอดเยี่ยมในไตรมาสนี้ ส่งผลให้เดลล์มีสถานภาพทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีปริมาณเงินสดจากการดำเนินงาน
มูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านเหรียญ ซึ่งส่วนหนึ่งได้นำไปซื้อหุ้นคืนจำนวน 21 ล้านหุ้น และนับตั้งแต่ได้เริ่มโครงการซื้อหุ้นคืนเมื่อ 14 ปีที่ผ่านมา
เดลล์ได้เข้าซื้อหุ้นกลับคืนแล้วจำนวนทั้งสิ้น 850 ล้านหุ้น ในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 7 เหรียญ ในช่วงปลายไตรมาสนี้ เดลล์มีเงินสดและการ ลงทุนมูลค่า
7,800 ล้านเหรียญ และผลตอบแทนจากการลงทุนในส่วนทุนคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 316 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงกว่าร้อยละ 200 ติดต่อกันมาเป็น
ไตรมาสที่ 6
ในปลายไตรมาสที่สาม ยอดขายผ่านเว็บไซต์ http://www.dell.com เพิ่มขึ้นจาก 12,000 ล้านเหรียญในปีที่ผ่านมา เป็น
16,000 ล้านเหรียญต่อปี ซึ่งส่งผลให้เดลล์ได้รับการจัดให้อยู่ในอันดับที่ 110 ของฟอร์จูน 500 ในด้านการทำรายได้จากเว็บไซต์
มีผลประกอบการโดดเด่นในอเมริกา และเอเชีย-แปซิฟิก รวมทั้งญี่ปุ่น
ในไตรมาสที่สามนี้ เดลล์มียอดจัดส่งผลิตภัณฑ์ทั่วโลกเพิ่มขึ้นร้อยละ 21 จากปีที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าอัตราการเติบโตของ
อุตสาหกรรมโดยรวม และทำให้บริษัทฯ ติดอันดับ 2 ของโลก
ในภูมิภาคอเมริกา รายได้ของเดลล์สูงขึ้นร้อยละ 24 โดยมียอดขายให้กับธุรกิจขนาดเล็กและผู้บริโภค รายย่อยเพิ่มขึ้นร้อยละ 34 ราย
ได้นอกภูมิภาคอเมริกาเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รวมทั้งรายได้ในละติน อเมริกาซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงถึงร้อยละ 56
ในยุโรป ตะวันออกกลาง และอาฟริกา เดลล์มียอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 โดยมียอดขายให้กับธุรกิจขนาดเล็กและลูกค้ารายย่อยสูงขึ้นจาก
ไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 25 เดลล์มีรายได้ในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาสูงขึ้นเกือบร้อยละ 20
นอกจากนี้ เดลล์ยังมีการเติบโตที่แข็งแกร่งในกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ ซึ่งส่งผลให้รายได้ของบริษัทฯ ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก รวมทั้งญี่ปุ่น
ประจำไตรมาสนี้พุ่งพรวดถึงร้อยละ 39 ในขณะที่ยอดขายของเดลล์ในประเทศจีนถีบตัวสูงขึ้นเกินกว่าร้อยละ 70 นอกจากนี้ เดลล์ยังได้ริเริ่มระบบ
ขายตรงในอินเดีย ซึ่งถือเป็นตลาดแห่งหนึ่งในภูมิภาคแห่งนี้ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุด
ยอดจัดส่งเครื่องโน้ตบุ๊ค และผลิตภัณฑ์ระดับเอ็นเตอร์ไพรส์เพิ่มขึ้น
ยอดจัดส่งเครื่องโน้ตบุ๊ค Inspiron และ Latitude เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 50 โดยปริมาณการจัดส่งเครื่องโน้ตบุ๊คเพิ่มขึ้น 1.5
เท่าของอัตราเฉลี่ยโดยรวม และ 1.7 เท่าของอัตราเฉลี่ยในสหรัฐอเมริกา ยอดจำหน่ายเครื่องโน้ตบุ๊คในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก รวมทั้งญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น
กว่าอัตราเฉลี่ยโดยรวมมากกว่า 2 เท่า
ในไตรมาสที่สาม ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระดับเอ็นเตอร์ไพรส์ ได้แก่ เครื่องเซิร์ฟเวอร์ ผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูล และเครื่องเวิร์คสเตชั่น
พุ่งสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 37 ยอดจัดส่งเครื่องเซิร์ฟเวอร์ PowerEdge เพิ่มขึ้นประมาณ 1 เท่าของอัตราเฉลี่ยโดยรวมทั่วโลก โดย
ติดอันดับที่ 2 ในตลาดโลก นอกจากนี้ เดลล์ยังมียอดจัดส่งเครื่องเซิร์ฟเวอร์ไปยังตลาดยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเพิ่มขึ้น 1.6 เท่าของ
อัตราเฉลี่ยโดยรวม และประมาณเกือบ 7 เท่าของอัตราเฉลี่ยของผู้นำในตลาดระดับภูมิภาคในเอเชีย-แปซิฟิก รวมทั้งญี่ปุ่น เดลล์มียอดจัดส่ง
เครื่องเซิร์ฟเวอร์เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 70 หรือประมาณ 2.5 เท่าของอัตราเฉลี่ยโดยรวม ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ในวงการอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์
กล่าวว่า เดลล์มีส่วนแบ่งการตลาดเครื่องเซิร์ฟเวอร์เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 จุด ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และมากกว่า 4 จุดในตลาดญี่ปุ่น
เครื่องเวิร์คสเตชั่น Precision ของเดลล์ ซึ่งครองตำแหน่งอันดับหนึ่งทั่วโลก และผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูล Dell PowerVault มียอด
จำหน่ายต่อหน่วยที่แข็งแกร่งมาก รายได้จากผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลแบบภายนอก (external storage products) เพิ่มขึ้นร้อยละ 73 จากปี
ที่ผ่านมา หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 26 จาก ไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากการที่บริษัทฯ ได้แนะนำผลิตภัณฑ์เครือข่ายระดับโลว์-เอ็นด์รุ่นใหม่
ทั้งยังได้ขยายคุณลักษณะของระบบเครือข่ายจัดเก็บข้อมูล (storage-area network หรือ SAN) ซึ่งติดอันดับที่ 2 ของโลก
เกี่ยวกับเดลล์
เดลล์เป็นผู้ออกแบบและผลิตสินค้า ตลอดจนให้บริการตามความต้องการของผู้ใช้ โดยมีอุปกรณ์พ่วงต่อและซอฟต์แวร์ให้เลือกมากมาย
อาทิ คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค และเดสก์ท๊อป เน็ตเวิร์คเซิฟเวอร์ และเวิร์คสเตชั่น ผู้ที่ต้องการข้อมูลด้านผลิตภัณฑ์ของเดลล์สามารถติดต่อโดยตรงผ่าน
บริการโทรศัพท์ฟรีของเดลล์ที่ โทร. 088 006 009 หรือที่เว็บไซต์ที่ http://www.dell.com/ap.
เดลล์ คอมพิวเตอร์ คอร์ปอเรชั่น(Nasdaq : DELL) เป็นบริษัทคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบขายตรงชั้นนำของโลก โดยมีรายได้ในปีการเงิน
2543 งวดบัญชีสิ้นสุดเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2543 คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 28,500 ล้านเหรียญสหรัฐ และเดลล์ยังเป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์
คุณภาพสูงเพื่อใช้ในการวางโครงสร้างการทำธุรกิจบนอินเตอร์เน็ต ตลอดจนบริการชั้นเยี่ยมให้กับลูกค้า เดลล์ได้รับการจัดอันดับโดยบริษัทฟอร์จูน
500 ให้อยู่ในอันดับที่ 56 ในฟอร์จูน 500 และอยู่ในอันดับที่ 154 ในการจัดอันดับบริษัทยอดเยี่ยมในฟอร์จูน โกลบอล 500 นอกจากนี้ยังติดอันดับ
3 ของรายชื่อบริษัทที่ได้รับการชื่นชมมากที่สุดจากฟอร์จูน เดลล์ คอมพิวเตอร์เป็นผู้ออกแบบ และผลิตคอมพิวเตอร์และให้บริการตามความต้องการของลูกค้า
และมีอุปกรณ์พ่วงต่อและซอฟต์แวร์ให้เลือกมากมาย
ข้อมูลข้างต้นนี้เผยแพร่โดย: เดลล์ คอมพิวเตอร์ คอร์ปอเรชั่น
บริการโทรศัพท์ฟรีของเดลล์ที่ โทร. 088-006-009
เว็บไซต์ของเดลล์ ที่ http://www.dell.com/ap/.
หมายเหตุถึงบรรณาธิการ: หากต้องการข้อมูลเกี่ยวกับงบดุลบัญชีการเงิน กรุณาติดต่อ
พรทิพย์ เลิศเวชกุล
บริษัทอาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
โทร. 252-9871-7
อีเมลล์: [email protected] จบ--
-อน-
- ธ.ค. ๒๕๖๗ กลุ่มทรู จัดแคมเปญ “Together Forever” เอาใจคู่รัก รับวันวาเลนไทน์ ชวนคู่หวานเปิดเบอร์ใหม่เสริมดวงความรัก จากทรูมูฟ เอช พร้อมรับฟรี บัตรภาพยนตร์True 4DX มูลค่า 1,200 บาท
- ธ.ค. ๒๕๖๗ ภาพข่าว: กรมการค้าภายในเยี่ยมชมกิจการ “ร้านติดดาว” โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตร้านค้าปลีกของกลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์
- ธ.ค. ๒๕๖๗ ประเทศไทยจัดงานประชุมนานาชาติเรื่องโรคเอดส์ ใช้ Live Streaming ถ่ายทอดสดการประชุมเป็นครั้งแรกแก่บุคลากรทางการแพทย์