รศ.ดร.ยศพงษ์ ลออนวล ผู้ช่วยอธิการบดี ฝ่ายพัฒนาความยั่งยืน และ หัวหน้าศูนย์วิจัย Mobility and Vehicle Technology Research Center (MOVE) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) กล่าวว่า ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก เทคโนโลยีและนวัตกรรมยานยนต์สมัยใหม่ ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) แต่ยังครอบคลุมถึงการผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะในทุกมิติ ภายใต้แนวคิด CASE คือ การเชื่อมต่ออัจฉริยะ (Connected) ระบบขับขี่อัตโนมัติ (Autonomous) การใช้ทรัพยากรร่วมกัน (Shared) บนพื้นฐานแพลตฟอร์ม ยานยนต์ไฟฟ้า (Electric) ศูนย์วิจัย MOVE มจธ. มุ่งมั่นทำงานวิจัยและพัฒนาร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา และ ภาคประชาชน เพื่อช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่นวัตกรรมยานยนต์ที่ยั่งยืนและเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ รวมถึงยกระดับผู้ประกอบการไทยให้สามารถแข่งขันในระดับสากล ในปีนี้ศูนย์วิจัย MOVE มจธ. มีความยินดีอย่างยิ่งที่เป็นหนึ่งในผู้ร่วมสนับสนุนการจัดงาน MobilityTech Asia - Bangkok 2025 (MTAB) และเรายังร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม Future MOVE Forum เวทีความรู้ระดับภูมิภาค ที่รวมผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลก มาร่วมแบ่งปันความรู้ แนวโน้มเทคโนโลยี และนวัตกรรมล่าสุด ในประเด็นสำคัญ ได้แก่ การบูรณาการระบบโครงข่ายพลังงานกับยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle and Energy Grid Integration) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับยานยนต์พลังงานไฮโดรเจน (Hydrogen Vehicle and Infrastructure) เทคโนโลยียานยนต์อัตโนมัติและการเชื่อมต่อในระบบขนส่ง (Connected Autonomous Vehicles) การบริการด้านการเดินทางแห่งอนาคตและระบบนิเวศที่เกี่ยวข้อง (Next-Gen Mobility Services and Ecosystems) เป็นต้น เราเชื่อว่างาน MTAB ไม่เพียงเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมเรียนรู้และต่อยอดนวัตกรรม แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยและภูมิภาคสู่อนาคตการเดินทางที่ยั่งยืน
นายสรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย กล่าวว่า กว่า 10 ปีที่เราเป็นผู้นำการจัดงานแสดงเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาค สู่การรีแบรนด์เป็นงาน MobilityTech Asia - Bangkok (MTAB) ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการต่อยอดความสำเร็จ และขยายขอบเขตการจัดงานให้ครอบคลุมในทุกมิติของเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคต ไม่ว่าจะเป็น โครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ (Smart Infrastructure), ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Autonomous), บริการการเดินทางแบบครบวงจร (MaaS), ซอฟต์แวร์ และความมั่นคงทางข้อมูล (Cybersecurity) เป็นต้น ปีนี้จัดขึ้นภายใต้ธีม "Shaping the Regional Innovation Hub for Sustainable Mobility" หรือ "ขับเคลื่อนศูนย์กลางนวัตกรรมของภูมิภาค สู่อนาคตยานยนต์ยั่งยืน" อีกหนึ่งความแข็งแกร่งที่ทำให้งาน MTAB แตกต่าง คือ ความร่วมมืออันยาวนานกับ สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) ซึ่งเป็นหนึ่งพันธมิตรหลักของเราในการจัดงานมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการร่วมจัดประชุมนานาชาติอย่าง iEVTech Conference ที่เปิดเวที ร่วมอัปเดตนวัตกรรมและแนวโน้มสำคัญของอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังมีเวทีสัมมนาอีกมากมายที่ครอบคลุมทุกมิติ จากผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่ Future Move Forum, ASEAN EV Round Table, EVAT Tech Forum เป็นต้น เจาะลึกเทรนด์นวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคต และแนวทางสู่ความยั่งยืนในภาคขนส่ง นอกจากนี้ยังรวบรวมแบรนด์ชั้นนำระดับโลกด้านเทคโนโลยียานยนต์กว่า 250 แบรนด์ อาทิ 24M, ROBERT BOSCH, BYD, FUJITSU, TOSHIBA, TESLA ENERGY และ TRUMPF เป็นต้น พร้อมด้วยพาวิเลียนนานาชาติ จาก จีน ฟินแลนด์ เยอรมนี ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ สวิตเซอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร ตอกย้ำบทบาทของงาน MTAB 2025 ในฐานะประตูสู่โอกาสใหม่ของอุตสาหกรรมยานยนต์เอเชีย คาดว่างานในปีนี้จะมีผู้เข้าชมงานกว่า 32,000 รายจาก 65 ประเทศทั่วโลก และงานนี้จะเป็นเวทีสำคัญในการผลักดันศักยภาพของประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางแห่งนวัตกรรมยานยนต์และระบบขนส่งอัจฉริยะที่ยั่งยืนของภูมิภาคอย่างครบวงจร
ร่วมพลิกโฉมวงการยานยนต์ของภูมิภาคไปกับงาน MobilityTech Asia - Bangkok 2025 จัดพร้อมกับงาน ASIA Sustainable Energy Week 2025 (ASEW) งานแสดงเทคโนโลยีพลังงานทดแทนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค เชื่อมโยงนวัตกรรมพลังงานสะอาดและเทคโนโลยียานยนต์ยั่งยืนไว้อย่างครบวงจร จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-4 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) กรุงเทพฯ ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม และลงทะเบียนเข้าชมงานได้ที่ www.mobilitytechasia-bkk.com
