งานวิจัยนี้มีเป้าหมายเพื่อเข้าใจถึงธุรกิจต่างๆ เตรียมตัวรับมือกับสภาพแวดล้อมทางไซเบอร์ที่คาดเดาได้ยากมากขึ้นอย่างไร และลักษณะใหม่ใดบ้างที่จะกำหนดอนาคตของความปลอดภัยไอที โดยผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์เข้าร่วมสำรวจรวม 850 รายจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง ตุรกีและแอฟริกา ยุโรป อเมริกา และรัสเซีย
ประเด็นสำคัญประการหนึ่งของการศึกษาวิจัย คือผู้ตอบแบบสอบถามมีความคุ้นเคยกับคำว่า 'Cyber Immunity' หรือ 'ภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์' อย่างไร และวิธีการประเมินประสิทธิภาพที่เป็นไปได้ในการให้การป้องกันที่เชื่อถือได้ต่อภัยคุกคาม
'ภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์' กำหนดโดยแคสเปอร์สกี้ในตอนแรกว่าเป็นแนวคิดของระบบไอทีและโอทีที่ได้รับการรักษาความปลอดภัยตั้งแต่การออกแบบ เนื่องมาจากระเบียบวิธีการพัฒนา ข้อกำหนดด้านสถาปัตยกรรมที่เฉพาะเจาะจง และการรับมือการโจมตีทางไซเบอร์ ทำให้ลดต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับโซลูชันความปลอดภัยไซเบอร์ภายนอกลงได้
การวิจัยเผยให้เห็นว่าผู้ตอบแบบสอบถามทั่วโลกถึง 85% คุ้นเคยกับคำ 'ภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์' และเข้าใจความหมายที่ถูกต้องของคำนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนั้นอยู่ที่ 84% เกือบจะเท่ากับสัดส่วนทั่วโลก
ในบรรดาผู้ที่รู้จัก 'ภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์' ทั่วโลก จำนวน 73% มองว่า ภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการลดขีดความสามารถของอาชญากรไซเบอร์ที่พยายามเจาะเครือข่ายและโจมตีระบบ
เมื่อสอบถามถึงข้อดีด้านความปลอดภัยไซเบอร์โดยเฉพาะของ 'ภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์' ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 28% ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าวว่า ภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์สามารถลดความถี่ของการโจมตีไซเบอร์ได้อย่างมาก ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญในสัดส่วนที่สูงกว่าเล็กน้อย จำนวน 36% เชื่อว่า ภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์สามารถลดผลกระทบเชิงลบของการโจมตีได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ตอบแบบสอบถาม 35% เชื่อว่า ภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์สามารถบรรลุผลลัพธ์ทั้งสองอย่างพร้อมกันได้ ข้อมูลเชิงลึกนี้เน้นย้ำถึงความต้องการของบริษัทธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้นในการเปลี่ยนแปลงจากการใช้โซลูชันด้านความปลอดภัยไซเบอร์สำหรับระบบที่อ่อนไหวต่อช่องโหว่แบบเดิม ไปเป็นระบบที่ได้รับการออกแบบให้ปลอดภัยมากกว่า
เอเดรียน เฮีย กรรมการผู้จัดการ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แคสเปอร์สกี้ กล่าวว่า "เป็นเรื่องน่ายินดีที่พบว่าผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีความรู้ความเข้าใจเป็นอย่างดีเกี่ยวกับแนวคิด 'ภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์' ของเราที่ได้รับการจดสิทธิบัตร และมองเห็นคุณค่าที่แนวคิดนี้มีต่อกรอบงานความปลอดภัยไอทีของตน อีกทั้งภูมิภาคนี้ยังคงขับเคลื่อนด้วยระบบดิจิทัลและบูรณาการเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น AI ภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์จึงกลายมาเป็นแกนหลักของกลยุทธ์ด้านความปลอดภัยไซเบอร์ที่องค์กรต่างๆ ควรนำมาใช้"
เพื่อตอบสนองต่อความจำเป็นนี้ แคสเปอร์สกี้ได้ประกาศว่าระบบปฏิบัติการ KasperskyOS กำลังขยายขอบข่ายจากแพลตฟอร์มแบบฝังตัวไปสู่แพลตฟอร์มอเนกประสงค์ KasperskyOS ได้รับการออกแบบในตอนแรกให้เป็นแพลตฟอร์มสำหรับสร้างโซลูชันป้องกันไซเบอร์สำหรับอุตสาหกรรมโดยเฉพาะที่ต้องการการป้องกันอย่างเข้มงวด ปัจจุบันได้รับการยอมรับในบริบทที่กว้างขึ้นในทุกภาคส่วนที่ใช้ระบบไอทีสมัยใหม่ KasperskyOS ไม่เพียงแต่แก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยไซเบอร์เท่านั้น แต่ยังเพิ่มความยืดหยุ่นของโครงสร้างพื้นฐานอีกด้วย ด้วยการเปิดโอกาสให้ลูกค้าพัฒนาโซลูชันได้โดยตรงบนแพลตฟอร์มที่ปลอดภัย แคสเปอร์สกี้จึงนำเสนอขั้นตอนวิวัฒนาการต่อไปในด้านความปลอดภัยไซเบอร์ โดยเปลี่ยนจากการแพตช์ช่องโหว่หลังจากที่เกิดขึ้นเพียงอย่างเดียว และบรรเทาปัญหาเหล่านั้นด้วยโซลูชันด้านความปลอดภัยไซเบอร์จากภายนอกเท่านั้น
ดิมิทรี ลูคิแยน หัวหน้าหน่วยธุรกิจ KasperskyOS กล่าวว่า "เราได้แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกนี้กับผู้นำด้านไอทีระดับโลกที่งาน GITEX 2025 ผลการค้นพบยืนยันการเปลี่ยนแปลงที่เรารอคอยมานาน นั่นคือ องค์กรต่างๆ กำลังก้าวข้ามเครื่องมือที่ตอบสนองได้และระบบที่เรียกร้องความปลอดภัยตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ ด้วยแนวทางการสร้างภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์ของเราเพื่อสร้างระบบที่ปลอดภัยจากการออกแบบ เราเสนอขั้นตอนต่อไป ไม่ใช่แค่การตรวจจับภัยคุกคามเท่านั้น แต่ยังป้องกันภัยคุกคามเหล่านั้นในเชิงโครงสร้างด้วย ด้วยการขยาย KasperskyOS จากการใช้งานแบบฝังตัวไปสู่แพลตฟอร์มที่ปลอดภัยสำหรับวัตถุประสงค์ทั่วไป เรากำลังช่วยให้ลูกค้าสร้างสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่ยืดหยุ่นได้ ซึ่งจัดการได้ง่ายขึ้น ปลอดภัยยิ่งขึ้นในการใช้งาน และพร้อมรับมือกับความท้าทายในอนาคต"
แคสเปอร์สกี้เข้าร่วม GITEX Asia ในฐานะพันธมิตรด้าน Cyber Immunity และในวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา Kaspersky ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม Kaspersky Cyber Immunity Conference งานดังกล่าวมีข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมที่พูดคุยเกี่ยวกับการบรรจบกันของไอทีและโอที แนวคิด Cyber Immunity และหัวข้อด้านความปลอดภัยไซเบอร์อื่นๆ ผู้เข้าร่วมงานได้รับภาพรวมของภัยคุกคามทางไซเบอร์และสำรวจแนวโน้มสำคัญและความเสี่ยงที่เกิดขึ้นใหม่สำหรับปี 2025
ผู้ตอบแบบสอบถามในการวิจัยนี้มาจากซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตุรกี อียิปต์ แอฟริกาใต้ บราซิล เม็กซิโก สิงคโปร์ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เกาหลีใต้ รัสเซีย เยอรมนี สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และสเปน
