บลจ.กสิกรไทย ปลื้ม Thai ESGX ขึ้นแท่นแชมป์อันดับ 1 ชวนผู้ลงทุนปลดล็อค LTF เพื่อคว้าโอกาสจากหุ้นไทยปันผลสูง

บลจ.กสิกรไทย ปลื้มกองทุน K-HDThaiESGX และ K-70ThaiESGX กระแสตอบรับดีเกินคาด โดยสามารถกวาดยอดขายในช่วง IPO ได้สูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ด้วยมูลค่า AUM รวมกว่า 248 ล้านบาท พร้อมเปิดขายกองทุน Thai ESGX อีกครั้งแบบครบทั้ง 2 Share Class ทั้งสำหรับเงินลงทุนใหม่ และสำหรับการสับเปลี่ยนจาก LTF ในระหว่างวันที่ 13 พฤษภาคม - 30 มิถุนายน 2568

Wednesday 14 May 2025 14:29
บลจ.กสิกรไทย ปลื้ม Thai ESGX ขึ้นแท่นแชมป์อันดับ 1 ชวนผู้ลงทุนปลดล็อค LTF เพื่อคว้าโอกาสจากหุ้นไทยปันผลสูง

นายวิน พรหมแพทย์, CFA ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า กองทุน Thai ESGX จากบลจ.กสิกรไทย ทั้ง K-HDThaiESGX ที่เน้นลงทุนในหุ้นยั่งยืนปันผลสูง 100% และ K-70ThaiESGX ที่เน้นลงทุนผสมในหุ้นยั่งยืนปันผลสูง 70% และตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน 30% ที่ได้เปิดเสนอขายครั้งแรกเฉพาะเงินลงทุนใหม่ในช่วงวันที่ 2-8 พ.ค. ที่ผ่านมานั้น ได้รับเสียงตอบรับจากผู้ลงทุนดีเกินคาด ส่งผลให้ บลจ.กสิกรไทย ขึ้นแท่นแชมป์ โดยครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มกองทุน Thai ESGX ด้วยมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) รวมกว่า 248 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 32% จากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทั้งหมด 19 บริษัทในตลาด (ข้อมูลจาก Morningstar ณ 13 พ.ค. 68) ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย กำหนดเปิดขายกองทุน Thai ESGX อีกครั้งแบบครบทั้ง 2 Share Class ทั้งสำหรับเงินลงทุนใหม่ และสำหรับการสับเปลี่ยนจาก LTF ในระหว่างวันที่ 13 พฤษภาคม - 30 มิถุนายน 2568

นายวิน กล่าวต่อไปว่า กองทุน Thai ESGX จากบลจ.กสิกรไทย มีจุดเด่นอยู่ที่นโยบายลงทุนในหุ้นไทยยั่งยืนตามดัชนี SET High Dividend 30 Index (SETHD) ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะยาว โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก 1) หุ้นบริษัทชั้นนำขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพและศักยภาพการจ่ายปันผลสูง ช่วยลดความผันผวนของพอร์ตในสภาวะตลาดมีความไม่แน่นอน 2) หุ้นในดัชนี SETHD ยังมีการประเมินมูลค่าหุ้น (Valuation) ที่ถูกกว่าดัชนี SET อย่างมีนัยสำคัญ และ 3) หุ้นในดัชนี SETHD กว่า 90% ได้รับการจัดอันดับ SET ESG Rating ในระดับสูง สะท้อนถึงคุณภาพ และการคำนึงถึงความยั่งยืน ทั้งนี้บลจ.กสิกรไทย ยังคงคาดการณ์ Dividend Yield ของดัชนี SETHD ในปีนี้และอีก 2 ปีข้างหน้าไว้ที่ประมาณ 5-6% ต่อปี ซึ่งเป็นระดับที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการรายได้สม่ำเสมอ อีกทั้งกองทุนยังมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ไทยคุณภาพดีหลากหลายประเภท ซึ่งเป็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดี โดยเฉพาะในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับตัวลงเช่นนี้

นายวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ความสำเร็จในการบริหารจัดการกองทุนตามหลักเกณฑ์ ESG ของบลจ.กสิกรไทย สามารถการันตีได้จากรางวัลที่ได้รับมาทั้งหมดทั้งจากเวทีระดับประเทศอย่างรางวัลบลจ.ยอดเยี่ยมแห่งปีด้านความยั่งยืน (Best Asset Management Company Awards - ESG) จาก SET Awards 2024 และเวทีระดับสากลอย่างรางวัล Best ESG Manager จาก Best of the Best Awards 2025 และล่าสุดกับรางวัล Asset Management Company of the Year จาก Triple A Sustainable Investing Awards 2025 ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการลงทุนอย่างยั่งยืน โดยได้นำปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) มาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการกองทุนมาตั้งแต่ปี 2556 และเป็นบลจ.แรกของไทยที่ลงนามใน UNPRI พร้อมจัดทำรายงาน TCFD นอกจากนี้ ยังได้ประกาศความร่วมมือกับ Lombard Odier พันธมิตรที่ปรึกษาระดับโลก เพื่อร่วมกันกำหนดยุทธศาสตร์และพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนเพื่อความยั่งยืนให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ตอกย้ำเจตนารมณ์ในการยกระดับการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบในประเทศไทย

ผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุน K-HDThaiESGX และ K-70ThaiESGX สามารถลงทุนได้สะดวกและปลอดภัยผ่าน App K PLUS และ K-My Funds พร้อมรับสิทธิลดหย่อนภาษีปี 2568 จากทั้ง 2 Share Class สูงสุดถึง 600,000 บาท โดยสำหรับเงินลงทุนใหม่ รับสิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุดถึง 300,000 บาท และสำหรับการสับเปลี่ยนจาก LTF มายังกองทุน Thai ESGX สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ 500,000 บาท โดยแบ่งเป็นปี 2568 จำนวน 300,000 บาท และปี 2569-2572 ปีละไม่เกิน 50,000 บาท ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888