ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์: ผลตอบแทนพร้อมความคุ้มครอง
ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (Endowment Life Insurance) เป็นรูปแบบประกันที่ผสมผสานระหว่างความคุ้มครองชีวิตกับการออมเงินในระยะยาว ผู้เอาประกันจะชำระเบี้ยประกันตามระยะเวลาที่กำหนด และเมื่อครบกำหนดสัญญา จะได้รับเงินคืนพร้อมผลตอบแทนในรูปของ "เงินคืนระหว่างสัญญา" หรือ "เงินก้อนเมื่อครบสัญญา" ซึ่งมักการันตีผลตอบแทนขั้นต่ำ พร้อมมีโอกาสได้รับโบนัสพิเศษในบางกรมธรรม์
จุดเด่น
- มีความมั่นคงสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการันตีเงินออมระยะกลางถึงยาว
- ให้ความคุ้มครองชีวิตตลอดระยะเวลาออม ช่วยลดความเสี่ยงหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน
- สามารถนำเบี้ยประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ สูงสุด 100,000 บาท/ปี
มีวินัยทางการเงิน เพราะจำเป็นต้องจ่ายเบี้ยอย่างต่อเนื่องตามแผน
ข้อจำกัด
- สภาพคล่องต่ำ หากเวนคืนกรมธรรม์ก่อนกำหนดอาจขาดทุน
- ผลตอบแทนรวมอาจต่ำกว่าการลงทุนในตราสารหนี้หรือหุ้น หากมองในแง่ "ผลตอบแทนต่อความเสี่ยง"
ไม่เหมาะกับผู้ที่มองหาการเติบโตของเงินทุนในระดับสูง
พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ: ปลอดภัยระดับโลก ได้ดอกเบี้ยแน่นอน
พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (U.S. Treasury Bonds) ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือการลงทุนที่ปลอดภัยที่สุดในโลก ด้วยสถานะของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มีความน่าเชื่อถือสูงและไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ พันธบัตรเหล่านี้ให้ดอกเบี้ยคงที่ตามระยะเวลาครอบครอง เช่น 2 ปี, 5 ปี หรือ 10 ปี ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการปกป้องเงินต้นและมีรายรับประจำ
จุดเด่น
- ความเสี่ยงต่ำมาก และถือเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนทั่วโลกใช้เป็น "ที่พักเงิน" ยามเศรษฐกิจผันผวน
มีสภาพคล่องสูง สามารถซื้อขายได้ในตลาดรอง - ดอกเบี้ยที่ได้รับอาจปลอดภาษีในบางกรณี (เช่น Treasury Bonds ของสหรัฐฯ ปลอดภาษีรัฐและท้องถิ่น)
เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตลงทุน
ข้อจำกัด
- อัตราผลตอบแทนมักต่ำ โดยเฉพาะในช่วงที่ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ
- ไม่ให้ความคุ้มครองชีวิต และไม่มีสิทธิประโยชน์ทางภาษีในประเทศไทย
มีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน หากผู้ลงทุนอยู่ในประเทศที่ใช้เงินสกุลอื่น (เช่น บาท)
แล้วควรเลือกแบบไหนดี ?
คำตอบขึ้นอยู่กับ "เป้าหมายทางการเงิน" และ "สถานะของคุณในปัจจุบัน" ว่าต้องการอะไรมากกว่า ความคุ้มครอง ความมั่นคง หรือสภาพคล่อง
หากคุณกำลังมองหาวิธีออมเงินระยะยาวที่มีผลตอบแทนคงที่ พร้อมความคุ้มครองชีวิต และยังได้สิทธิลดหย่อนภาษีในประเทศไทย ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์จะตอบโจทย์ได้ดี โดยเฉพาะกับผู้ที่ต้องการวางแผนส่งต่อมรดกให้ลูกหลาน หรือต้องการสร้างวินัยในการออมอย่างสม่ำเสมอ เพราะประกันรูปแบบนี้จะบังคับให้คุณเก็บเงินไว้ตลอดระยะเวลาของสัญญา ซึ่งแม้จะให้ผลตอบแทนไม่หวือหวา แต่มั่นคง และมีความหมายหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน
ในขณะที่พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นความปลอดภัยของเงินต้น ต้องการสภาพคล่องสูง และเปิดรับการลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะผู้ที่ถือเงินสกุล USD อยู่แล้ว หรือมีพอร์ตการลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยง การถือพันธบัตรเหล่านี้เปรียบเสมือนมี "หลักประกัน" ที่สามารถสร้างกระแสเงินสดประจำ และพร้อมเปลี่ยนเป็นเงินสดได้เมื่อจำเป็น
กล่าวอีกนัยหนึ่ง หากคุณต้องการ "เครื่องมือการออมที่มีประโยชน์ทางภาษีและปกป้องครอบครัว" ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์คือคำตอบ แต่หากคุณต้องการ "สินทรัพย์ปลอดภัยระดับโลกที่มีความยืดหยุ่น" พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ จะตอบโจทย์คุณได้มากกว่า
ทั้งสองแบบมีจุดแข็งที่แตกต่างกัน และในหลายกรณี การเลือก "ทั้งสองอย่างร่วมกัน" ในสัดส่วนที่เหมาะสม ก็อาจเป็นกลยุทธ์ที่ลงตัวที่สุดในแผนบริหารความมั่งคั่งของคุณ