นับเป็นการขยายความร่วมมือระหว่าง EXIM BANK และ BIDV สืบเนื่องจากการลงนามความร่วมมือระหว่างกันเมื่อปี 2562 โดยครั้งนี้ ทั้งสองธนาคารจะใช้เครื่องมือทางการเงินสีเขียว (Green Finance) และการเงินเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Finance) เพิ่มมูลค่าการค้าและการลงทุนไทย-เวียดนาม สอดคล้องกับนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG Economy) และการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Environmental, Social, and Governance : ESG) ในฐานะที่ EXIM BANK เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลังที่มีภารกิจส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการไทยขยายธุรกิจการค้าและการลงทุนเข้าไปยังตลาดต่างประเทศ พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่ความยั่งยืนผ่านความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์กับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในระดับภูมิภาคและระดับโลก
ทั้งนี้ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา GDP เวียดนามโตเฉลี่ย 6-7% ต่อปี ข้อมูลจากรายงานเศรษฐกิจเวียดนามประจำปี 2567 ระบุว่า เวียดนามมีอัตราการเติบโตของ GDP อยู่ที่ 7.09% สูงที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากภาคบริการ (เติบโต 7.38%) อุตสาหกรรมและก่อสร้าง (เติบโต 8.24%) และภาคเกษตรกรรม (เติบโต 3.27%) นอกจากนี้ GDP ต่อหัวของเวียดนามยังเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 4,700 ดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและฐานการผลิตในระดับภูมิภาค ความร่วมมือระหว่าง EXIM BANK และ BIDV จะช่วยให้ธุรกิจไทยขยายเข้าสู่ตลาดเวียดนามได้มากขึ้น ต่อยอดการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ในโอกาสนี้ รักษาการกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK พร้อมด้วยผู้บริหาร EXIM BANK เข้าร่วมงานสัมมนาทางธุรกิจไทย-เวียดนาม (Thailand-Vietnam Business Forum) จัดโดยหอการค้าไทย เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างไทย-เวียดนาม ตลอดจนสร้างเครือข่ายกับทางธุรกิจ สอดรับกับบทบาท EXIM BANK ในการผลักดันผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดต่างประเทศ โดยมีผู้ประกอบการและผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐเข้าร่วมงาน ณ โรงแรมเมเลีย กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2568