นายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา กล่าวว่า ปัจจุบันเยาวชนที่เริ่มสูบบุหรี่ไฟฟ้ามีอายุน้อยลงเรื่อย ๆ เนื่องจากสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ยาสูบรูปแบบใหม่ได้ง่ายผ่านช่องทางออนไลน์ อีกทั้งผลิตภัณฑ์ยังออกแบบให้พกพาง่าย รูปร่างสวยงาม มีกลิ่นหอม ดึงดูดใจ ทำให้เด็กเข้าใจผิดว่าไม่อันตราย ทั้งที่จริงแล้วควันบุหรี่ไฟฟ้าที่ปล่อยออกมา หรือที่เรียกว่า ควันบุหรี่ไฟฟ้ามือสอง ภายในควันประกอบด้วยสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกายจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นสารนิโคตินที่มีปริมาณสูง สารก่อมะเร็ง โลหะหนัก สารแต่งกลิ่นและรส รวมถึงสารประกอบอินทรีย์ โดยเฉพาะสารไดอะซิทิล (Diacetyl) ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพทั้งต่อผู้สูบและผู้ใกล้ชิด
นายแพทย์เฉลิมพล กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องในวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก สคร.12 สงขลา ร่วมรณรงค์ "กระชากหน้ากาก ธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้า : นิโคตินเสพติด จน ตาย" Unmasking the Appeal : Exposing Industry Tactics on Tobacco and Nicotine Products เพื่อสร้างการรับรู้ถึงอันตรายของการเสพติดบุหรี่ไฟฟ้า และอันตรายสารพิษต่าง ๆ ที่อยู่ในบุหรี่ไฟฟ้า รวมทั้งปกป้องเด็กและเยาวชนไม่ให้เริ่มสูบบุหรี่ไฟฟ้า และประชาชนเกิดความตระหนักถึงอันตรายจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้าและรู้เท่าทันกลยุทธ์อุตสาหกรรมยาสูบ
สคร.12 สงขลา ขอเน้นย้ำไปยังประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชนว่า บุหรี่ไฟฟ้าทำลายสุขภาพ อย่าหลงเชื่อหรือตกเป็นเหยื่อโฆษณาชวนเชื่อ เพราะการสูบบุหรี่ไฟฟ้าทำให้เกิดการเสพติดสารนิโคตินเช่นเดียวกับการสูบบุหรี่ทั่วไป อีกทั้งการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในสถานที่สาธารณะ ยังมีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท สำหรับผู้ที่ต้องการอยากเลิกบุหรี่ สามารถขอรับคำปรึกษาฟรี ได้ที่ศูนย์บริการเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์แห่งชาติ โทร. 1600 หากประชาชนมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
