ประเภทของเลนส์โปรเกรสซีฟ
เลนส์โปรเกรสซีฟแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานจนถึงเทคโนโลยีขั้นสูงที่ปรับแต่งเฉพาะบุคคล ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
1. เลนส์โปรเกรสซีฟโครงสร้างสำเร็จรูป ( Standard Conventional Progressive )
เลนส์ประเภทนี้เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟพื้นฐานที่ผลิตจากโครงสร้างสำเร็จรูป การออกแบบใช้เพียงค่าสายตาพื้นฐานในการผลิต โดยไม่ได้นำพารามิเตอร์สำคัญอื่น ๆ เข้ามาคำนวณร่วมด้วย เลนส์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาไม่ซับซ้อน ไม่มีค่าสายตาเอียง หรือมีค่าเอียงไม่เกิน 1.00 และมีค่า PD ในเกณฑ์มาตรฐาน อย่างไรก็ตาม เลนส์ประเภทนี้มีข้อจำกัดหลายประการ เช่น มุมมองที่แคบกว่า ความนุ่มนวลในการมองน้อยกว่า และไม่เหมาะกับผู้ที่มีค่าสายตาต่างกันระหว่างสองข้าง
2. เลนส์โปรเกรสซีฟโครงสร้างแบบอิสระ ( Standard Freeform Progressive )
เลนส์ประเภทนี้ใช้เทคโนโลยี Freeform ในการผลิต ซึ่งเป็นกระบวนการขัดเลนส์แบบ 3 มิติที่มีความละเอียดสูง ทำให้ได้เลนส์ที่มีความแม่นยำมากขึ้นและสามารถรองรับค่าสายตาที่ซับซ้อนได้ดีกว่า เลนส์นี้สามารถปรับตามค่าระยะห่างระหว่างจุดศูนย์กลางดวงตา (PD) ได้ ทำให้มุมมองกว้างขึ้นและการมองเห็นชัดเจนในทุกระยะ ไม่ว่าจะเป็นระยะใกล้ กลาง หรือไกล การปรับตัวเมื่อใช้งานจึงง่ายขึ้นกว่าเลนส์แบบสำเร็จรูป
3. เลนส์โปรเกรสซีฟโครงสร้างแบบอิสระที่ปรับแต่งเฉพาะบุคคล ( Unique Freeform Progressive )
เลนส์ประเภทนี้มีเทคโนโลยีเดียวกับ Standard Freeform แต่เพิ่มการวัดพารามิเตอร์เฉพาะบุคคลเข้ามา เช่น ความเทของหน้าแว่น ความโค้งของหน้าแว่น ระยะห่างระหว่างดวงตาถึงเลนส์ และตำแหน่งการวางแว่นบนใบหน้าจริง ทำให้ได้เลนส์ที่เหมาะสมกับสรีระและพฤติกรรมการใช้งานของแต่ละคน ส่งผลให้การมองเห็นนุ่มนวลขึ้น สบายตามากขึ้น และมีการรับรู้ภาพ 3 มิติที่ดีเยี่ยม
เลนส์ประเภทนี้ยังรองรับการทำงานร่วมกันของทั้งสองตา (Binocular Tuning) ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาต่างกันระหว่างสองข้าง เลนส์แบบนี้ราคาจะสูงกว่าแบบทั่วไปแต่คุ้มค่ามาก เพราะได้เลนส์ที่ออกแบบมาเพื่อเราโดยเฉพาะจริง ๆ
4. เลนส์โปรเกรสซีฟโครงสร้างพิเศษเฉพาะบุคคล ( Individual Freeform Progressive )
หากอยากได้เลนส์โปรเกรสซีฟที่ละเอียดที่สุด ต้องยกให้เลนส์โปรเกรสซีฟโครงสร้างพิเศษเฉพาะบุคคล รุ่นนี้จะรวมข้อดีของ Freeform แบบปรับแต่งเฉพาะบุคคลทั้งหมด และเพิ่มการคำนวณจากข้อมูลจริงตอนสวมใส่ เช่น ตำแหน่งม่านตา ความโค้งและมุมเอียงของกรอบแว่น การวางแว่นบนสันจมูกและหูของแต่ละคน ทุกอย่างจะถูกวัดอย่างละเอียดเพื่อให้เลนส์ที่ได้ตอบโจทย์สรีระและพฤติกรรมการใช้งานจริงที่สุด
ผลลัพธ์คือได้เลนส์ที่สบายตา ภาพชัดในทุกมุมมอง ลดความล้าสายตา เหมาะกับคนที่ต้องใช้สายตาทำงานทั้งวัน เช่น ทำงานหน้าจอ คุยงาน อ่านเอกสาร หรือต้องเดินทางบ่อย การลงทุนกับเลนส์รุ่นนี้แม้จะราคาสูงที่สุด แต่ถือว่าคุ้มค่าเพราะสบายตาทุกครั้งที่หยิบมาใส่
สรุปบทความ
เลนส์โปรเกรสซีฟมี 4 ประเภทหลัก ตั้งแต่แบบสำเร็จรูปพื้นฐานจนถึงแบบปรับแต่งเฉพาะบุคคล แต่ละประเภทมีคุณสมบัติและราคาที่แตกต่างกัน การเลือกใช้ควรพิจารณาจากความซับซ้อนของค่าสายตา ความต้องการใช้งาน และงบประมาณ เพื่อให้ได้เลนส์ที่เหมาะสมที่สุด

