ยอดการลงทะเบียนและธุรกรรมยังขยายตัวต่อเนื่อง
ข้อมูล ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2568 ระบุว่ามีการลงทะเบียนหมายเลขพร้อมเพย์ทั้งสิ้น 81.88 ล้านเลขหมาย แบ่งเป็น
- การลงทะเบียนของภาคประชาชน 81.51 ล้านเลขหมาย
- การลงทะเบียนของภาคธุรกิจ 0.37 ล้านเลขหมาย
ยอดธุรกรรมผ่านระบบพร้อมเพย์ในเดือนสิงหาคม 2568 อยู่ที่ 2.27 พันล้านรายการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 2.00 พันล้านรายการ คิดเป็นอัตราเติบโต 14% มูลค่ารวมของธุรกรรมอยู่ที่ 4.23 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1% จากเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ 4.20 ล้านล้านบาท สะท้อนถึงการใช้งานที่มั่นคงในชีวิตประจำวันของผู้ใช้ทั่วประเทศ
วันที่มียอดธุรกรรมผ่านพร้อมเพย์สูงสุดของเดือนสิงหาคม 2568
วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นวันที่มียอดธุรกรรมสูงสุดของเดือน โดยมียอดธุรกรรมรวมสูงถึง 80.67 ล้านรายการภายในวันเดียว นับเป็นอีกหนึ่งหลักฐานชัดเจนของบทบาทพร้อมเพย์ในฐานะช่องทางชำระเงินหลักของคนไทย ปัจจัยสำคัญมาจากการหมุนเวียนทางการเงินช่วงต้นเดือน ทั้งการโอนเงินเดือนจากสิ้นเดือนกรกฎาคมที่ต่อเนื่องมายังต้นเดือนสิงหาคม ไม่ว่าจะเป็น การจ่ายค่าครองชีพ ค่าเช่า ค่าสาธารณูปโภค
นอกจากนี้ ยังมีการทำธุรกรรมของภาคธุรกิจและเอสเอ็มอีที่นิยมโอนชำระและปิดรอบบัญชีในวันศุกร์เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่วันหยุดสุดสัปดาห์ ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัลที่นิยมชำระบิลและบริการต่าง ๆ แบบย่อยหลายครั้ง เช่น ค่ามือถือ อินเทอร์เน็ต และบริการสมัครสมาชิกออนไลน์ ส่งผลให้จำนวนธุรกรรมพุ่งสูงขึ้น สะท้อนถึงการที่พร้อมเพย์กลายเป็น "ระบบชำระเงินประจำวัน" ที่ฝังแน่นในชีวิตของผู้ใช้ทั่วประเทศ
Cross-Border QR Payment เติบโตแข็งแกร่ง
บริการ Cross-Border QR Payment ยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจดิจิทัล โดยในเดือนสิงหาคม 2568 มีมูลค่าธุรกรรมขาเข้า (Inbound) รวม 357.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% จากเดือนเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ 237.82 ล้านบาท
ประเทศที่มีการใช้จ่ายผ่าน Cross-Border QR Payment สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่
- มาเลเซีย - มูลค่า 203.78 ล้านบาท
- ลาว - มูลค่า 56.51 ล้านบาท
- อินโดนีเซีย - มูลค่า 34.13 ล้านบาท
ตัวเลขในเดือนสิงหาคม 2568 ทั้งในด้านปริมาณธุรกรรม มูลค่าธุรกรรม และการชำระเงินข้ามพรมแดน แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความเชื่อมั่นของผู้ใช้บริการต่อระบบพร้อมเพย์ ในฐานะโครงสร้างพื้นฐานหลักของการเงินดิจิทัลของประเทศ NITMX ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาระบบการชำระเงินให้มีความทันสมัย ปลอดภัย และตอบโจทย์ความต้องการของทุกภาคส่วน รองรับการใช้งานที่ซับซ้อนมากขึ้นในอนาคต พร้อมทั้งขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ
สามารถติดตามข้อมูลการใช้งานพร้อมเพย์ในประเทศต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ผ่านทาง https://www.bot.or.th/th/financial-innovation/digital-finance/digital-payment/cross-border-payment.html#connectivites-item-cad0596d91