สำหรับในสัปดาห์นี้ ขณะที่สถานการณ์ด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนตึงเครียดขึ้นอีกครั้งหลังจีนขยายมาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายากและปธน.ทรัมป์ตอบโต้ด้วยการขู่ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเติมในอัตรา 100% ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน อนึ่ง เรายังคงคาดหวังว่าภาษี 100% จะไม่ถูกนำมาใช้และแม้จะเกิดขึ้นจริงก็ไม่น่าจะคงอยู่เป็นเวลานาน เนื่องจากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถทนต่อภาษีในระดับสุดโต่งได้นาน อย่างไรก็ตาม ตลาดการเงินโลกจะผันผวนสูงขึ้นในระยะสั้น นอกจากนี้ นักลงทุนจะติดตามกระแสข่าวการจัดตั้งรัฐบาลในญี่ปุ่น และการตกลงเรื่องงบประมาณของฝรั่งเศส รวมถึงความเห็นประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)
สำหรับมุมมองสถานการณ์ภายในประเทศ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงดอกเบี้ยสวนทางมุมมองของเรา ขณะที่กรรมการเสียงส่วนน้อยสองท่านโหวตให้ลดดอกเบี้ยลง 25bp เพื่อสนับสนุนการเติบโตของสินเชื่อและลดภาระหนี้ของ SME และครัวเรือนที่เปราะบาง อย่างไรก็ดี กรรมการส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่การรักษาพื้นที่นโยบายที่จำกัดและปล่อยให้การลดอัตราดอกเบี้ยก่อนหน้านี้ส่งผลเต็มที่ต่อเศรษฐกิจ สัญญาณจากกนง.ประกอบกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่อ่อนแรงทำให้เรายังคงประเมินว่าดอกเบี้ยนโยบายของไทยยังไม่สิ้นสุดขาลง