อ้างอิงจากข้อมูลของ กรมการแพทย์ มะเร็งเต้านมยังคงเป็นโรคมะเร็งที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้หญิงไทย โดยมีผู้ป่วยรายใหม่มากถึง 20,000 รายต่อปี ท่ามกลางความท้าทายนี้ Erika King บัณฑิต SGU ปี 2562 ได้เสนอ 5 เคล็ดลับดูแลสุขภาพเต้านมที่ผู้หญิงไทยควรรู้ เพื่อเป็นการตรวจวินิจฉัยเชิงรุกและวางแผนการดูแลสุขภาพในระยะยาว
เข้าใจใน "ความปกติ" ของร่างกายตนเอง
การเข้าใจสภาวะปกติของร่างกาย ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการตรวจพบมะเร็งในระยะเริ่มต้น ผู้หญิงทุกคนควรตรวจเต้านมด้วยตนเองเป็นประจำทุกเดือน และใส่ใจกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เกิดขึ้น เช่น ก้อนแข็ง อาการบวม ผิวไม่สม่ำเสมอ หรือมีของเหลวไหลออกมา การสังเกตถึงการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยอาจเป็นตัวแปรสำคัญในการตรวจพบความผิดปกติแต่เนิ่นๆ
ให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ
การตรวจแมมโมแกรม (Mammogram) และตรวจร่างกายโดยแพทย์อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 40 ปี ยังคงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการตรวจพบมะเร็งเต้านมก่อนแสดงอาการ
การตรวจพบในระยะเริ่มต้นจะเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาด และช่วยรักษาคุณภาพชีวิตในระยะยาวนอกจากนี้ การตรวจคัดกรองยังช่วยให้รู้สึกอุ่นใจ เสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย และส่งเสริมความมั่นใจในการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดีต่อไปได้
รู้ถึงประวัติสุขภาพของครอบครัว
หากมีสมาชิกในครอบครัวหรือญาติใกล้ชิดเคยเป็นมะเร็งเต้านมหรือมะเร็งรังไข่มาก่อน อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคนี้ได้ ในกรณีนี้ การตรวจพันธุกรรมและการตรวจสุขภาพอย่างละเอียดจะช่วยให้สามารถวางแผนการดูแลสุขภาพได้ดีขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการให้คำปรึกษาด้านพันธุกรรมในปัจจุบัน ผู้หญิงสามารถตัดสินใจได้อย่างรอบคอบและแม่นยำมากขึ้น ด้วยข้อมูลที่รอบด้านและครบถ้วน
ใช้ชีวิตแบบใส่ใจสุขภาพ
พฤติกรรมการใช้ชีวิตมีผลต่อสุขภาพเต้านมอย่างมาก การรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ออกกำลังกายเป็นประจำ และลดการดื่มแอลกอฮอล์ ล้วนเป็นวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงได้ พฤติกรรมเล็กๆ เช่น การเพิ่มผักผลไม้ในแต่ละมื้ออาหาร ลดอาหารแปรรูป และออกกำลังกายเป็นประจำ เมื่อทำอย่างต่อเนื่องจะส่งผลดีในระยะยาว เพราะการป้องกันไม่ใช่เรื่องของความสมบูรณ์แบบ แต่เป็นเรื่องของความสม่ำเสมอ
ให้ความสำคัญกับสัญญาณจากร่างกาย
มะเร็งเต้านมไม่ได้แสดงอาการให้เห็นเด่นชัดเสมอไป บางครั้งอาจแสดงผ่านอาการเจ็บเต้านมเรื้อรัง อาการบวม หรือขนาดเต้านมและผิวหนังที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญ การสังเกตร่างกายของตนเอง และไปพบแพทย์เมื่อเกิดความผิดปกติ จึงถือเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการดูแลและปกป้องตัวเอง
การดูแลสุขภาพเต้านมอย่างต่อเนื่อง คือ การให้ความสำคัญกับการเข้าใจ การป้องกัน และการดูแลตนเองอย่างแท้จริง ในช่วงเดือนแห่งการรณรงค์ตระหนักรู้มะเร็งเต้านมนี้ มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ (SGU) ส่งเสริมให้ผู้หญิงไทยทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของมะเร็งเต้านม และลุกขึ้นมาดูแลเสริมสร้างสุขภาพเต้านมของตนเอง ผ่านการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ดีต่อสุขภาพ หรือแม้แต่การใส่ใจต่อสัญญาณเตือนเล็กๆ จากร่างกายต่อไป