สไตล์โมเดิร์นคืออะไร
สไตล์โมเดิร์น (Modern Style) ในการออกแบบตกแต่งภายใน หมายถึงแนวทางการออกแบบที่เน้นความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน รูปทรงมักจะเป็นเรขาคณิตที่ตรงไปตรงมา ตัดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป เหลือไว้เพียงฟังก์ชันการใช้งานที่สำคัญ ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง สบายตา และเน้นการใช้วัสดุที่ดูทันสมัย เช่น เหล็ก กระจก หรือคอนกรีต ควบคู่ไปกับวัสดุธรรมชาติอย่างไม้
รวม 8 สไตล์โมเดิร์นยอดนิยมที่แต่งแล้วสวยมีระดับ
เมื่อความเรียบง่ายแบบโมเดิร์นมาผสมผสานกับแนวคิดอื่น ๆ ก็เกิดเป็นสไตล์ย่อยที่น่าสนใจมากมาย ลองมาดูกันว่ามีแบบไหนที่ถูกใจคุณบ้าง
1. Modern Luxury Style เรียบหรู ดูแพง
สไตล์นี้คือการนำความเรียบง่ายแบบโมเดิร์นมาเจอกับความหรูหราอลังการ เป็นการตกแต่งภายในบ้านหรูที่เน้นใช้วัสดุพรีเมียมเข้ามาผสมผสาน ทำให้พื้นที่ดูมีราคาและสะท้อนรสนิยมของเจ้าของบ้านได้อย่างดีเยี่ยม สำหรับใครที่สนใจสไตล์นี้
Alusite ผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุสำหรับจบงานพื้นและผนัง ให้คำแนะนำว่า องค์ประกอบสำคัญของการตกแต่งสไตล์เรียบหรู คือการเลือกใช้โทนสีที่ไม่ซับซ้อน เช่น ครีม ขาว เทา หรือน้ำตาลอ่อน และเน้นผิวสัมผัสเงางามหรูหรา ไม่ว่าจะเป็นพื้นผิวหินอ่อนขัดเงา กระจก หรือโลหะอย่างสแตนเลส ซึ่งล้วนสะท้อนถึงความหรูหราได้เป็นอย่างดี การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ก็ควรเน้นดีไซน์ที่ทันสมัย มีฟังก์ชันครบครัน ควบคู่ไปกับของตกแต่งที่บ่งบอกถึงความใส่ใจในรายละเอียด
2. Modern Loft Style ดิบเท่ มีสเน่ห์
เป็นการผสมผสานระหว่างความทันสมัยแบบโมเดิร์นกับความดิบเท่ของสไตล์ลอฟท์ จุดเด่นคือการเปิดเปลือยโครงสร้างบางส่วน เช่น ผนังอิฐเปลือย ผนังปูนเปลือย หรือการโชว์ท่อร้อยสายไฟ แต่จะมีการจัดวางเฟอร์นิเจอร์และองค์ประกอบต่าง ๆ ให้ดูเป็นระเบียบและสะอาดตามากขึ้น ไม่ดูดิบเหมือนสไตล์ลอฟท์แบบดั้งเดิม ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง เท่ และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
3. Modern Minimal Style น้อยแต่มาก เรียบง่ายน่าอยู่
สไตล์นี้ยึดหลัก "Less is More" อย่างแท้จริง โดยนำความเรียบง่ายของโมเดิร์นมาทำให้เรียบง่ายยิ่งขึ้นไปอีก เน้นใช้เฟอร์นิเจอร์เท่าที่จำเป็นจริง ๆ แต่ละชิ้นต้องมีดีไซน์ที่สะอาดตาและใช้งานได้ดี โทนสีที่ใช้มักจะเป็นสีอ่อน ๆ สบายตา เช่น ขาว เทาอ่อน หรือสีเบจ เพื่อให้ห้องดูสว่าง โปร่ง และสงบ เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเรียบร้อย ไม่ชอบของเยอะ และต้องการพื้นที่พักผ่อนที่แท้จริง
4. Modern Classic Style ผสมผสานความขลังและความทันสมัย
สไตล์นี้รวมความเรียบหรูของคลาสสิกเข้ากับความโมเดิร์นสมัยใหม่ วัสดุที่ใช้มักเป็นไม้ หินอ่อน หรือทองเหลือง เฟอร์นิเจอร์มีดีไซน์เนี๊ยบแต่ไม่ฟุ่มเฟือย โทนสีขาว เทา หรือทองอ่อนช่วยให้บรรยากาศดูหรูหราและมีรสนิยม การจัดวางเฟอร์นิเจอร์จะให้ความสำคัญกับความสมมาตรและสัดส่วนที่พอดี ทุกองค์ประกอบถูกออกแบบให้มีฟังก์ชันครบครันโดยไม่ทิ้งความสวยงาม
5. Modern Contemporary Style ร่วมสมัย ไม่ตกยุค
สไตล์นี้เป็นการนำเอาหลักการของสไตล์โมเดิร์นมาผสมผสานกับเทรนด์การตกแต่งที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ทำให้ได้ลุคที่ดูสดใหม่และทันสมัยอยู่เสมอ อาจมีการใช้สีสันที่หลากหลายมากขึ้น หรือเลือกใช้วัสดุผสมผสานกันหลายแบบ ทั้งไม้ โลหะ และกระจก เป็นสไตล์ที่ปรับเปลี่ยนได้ง่ายตามยุคสมัย
6. Modern Scandinavian Style อบอุ่น สบายตา
เป็นการนำความเรียบง่ายแบบโมเดิร์นมาผสมกับความอบอุ่นเป็นกันเองของสไตล์สแกนดิเนเวียน เน้นการใช้แสงธรรมชาติ วัสดุจากธรรมชาติอย่างไม้สีอ่อน ๆ และผ้าทอต่าง ๆ โทนสีที่ใช้มักเป็นสีสว่าง เช่น ขาว เทาอ่อน คู่กับสีเอิร์ธโทน ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง สบายตา และอบอุ่นน่าอยู่
7. Modern Tropical Style ใกล้ชิดธรรมชาติ สดชื่นผ่อนคลาย
สไตล์นี้เหมาะกับบ้านในเขตร้อนอย่างประเทศไทย เป็นการผสมผสานความเรียบง่ายของโมเดิร์นเข้ากับบรรยากาศสดชื่นของธรรมชาติ เน้นการใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ หวาย ไม้ไผ่ และผ้าฝ้าย มีการนำต้นไม้เข้ามาตกแต่งภายในบ้านเยอะ ๆ และอาจใช้สีสันสดใสที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ เช่น สีเขียว สีน้ำเงิน มาเป็นจุดเด่น ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเหมือนได้พักผ่อนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ
8. Modern Industrial Style เปลือยโครงสร้าง เท่แบบโรงงาน
คล้ายกับสไตล์ Loft แต่จะเน้นโชว์ความดิบของวัสดุและโครงสร้างมากกว่า เช่น การโชว์ท่อเหล็ก โครงเหล็กหลังคา ผนังอิฐเก่า หรือพื้นปูนขัดมัน เฟอร์นิเจอร์มักจะมีดีไซน์เรียบง่าย เน้นฟังก์ชัน และทำจากวัสดุอย่างเหล็กหรือไม้ ให้ความรู้สึกแข็งแรง เท่ และมีสไตล์แบบโรงงานอุตสาหกรรม
เคล็ดลับเลือกสไตล์โมเดิร์นให้เข้ากับบ้านและไลฟ์สไตล์
การจะเลือกว่าสไตล์โมเดิร์นแบบไหนที่ใช่สำหรับเราที่สุดนั้น ไม่มีคำตอบที่ตายตัว ลองพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้
- ความชอบส่วนตัว ถ้าชอบความเรียบง่าย Modern Minimal อาจจะใช่ทางของคุณ แต่ถ้าชอบความหรูหรา มีดีเทลแวววาว Modern Luxury ก็ตอบโจทย์ หรือถ้าหลงใหลในความดิบเท่ของปูนเปลือยและเหล็ก Modern Loft หรือ Modern Industrial ก็น่าสนใจ
- ไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิตก็สำคัญไม่แพ้กัน ถ้าเป็นสายเก็บสะสม ของตกแต่งเยอะ Modern Loft หรือ Modern Industrial อาจจะเหมาะ แต่ถ้าเป็นคนของน้อย ชอบความเป๊ะ เป็นระเบียบ Modern Minimal คือคำตอบ หรือถ้าชอบความรู้สึกสบาย ๆ ผ่อนคลาย มีความเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องเนี้ยบมาก Modern Scandinavian หรือ Modern Tropical ก็น่าจะเข้ากันได้ดี
- ลักษณะของบ้านหรือคอนโด พื้นที่ที่มีอยู่ก็มีผลต่อการเลือกสไตล์ คอนโดพื้นที่จำกัดมักจะดูดีในสไตล์ Modern Minimal หรือ Modern Scandinavian ที่เน้นความโปร่งโล่ง แต่ถ้าบ้านของคุณมีเพดานสูง ๆ การแต่งแบบ Modern Loft หรือ Modern Industrial ก็จะช่วยขับเน้นความโอ่โถงได้ดี ส่วนบ้านที่มีแสงธรรมชาติเข้าเยอะ ๆ ก็จะยิ่งส่งเสริมให้สไตล์ Modern Scandinavian และ Modern Tropical ดูสวยงามยิ่งขึ้น
- งบประมาณ เรื่องงบประมาณก็เป็นปัจจัยสำคัญ สไตล์อย่าง Modern Luxury แน่นอนว่าต้องใช้วัสดุพรีเมียมและมักจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าสไตล์อื่น ๆ ในขณะที่สไตล์ Modern Minimal หรือ Modern Scandinavian อาจจะยืดหยุ่นเรื่องงบประมาณได้มากกว่า สามารถเลือกใช้วัสดุทดแทนหรือเฟอร์นิเจอร์ในราคาที่เข้าถึงง่าย ส่วน Modern Loft หรือ Modern Industrial งบประมาณจะแปรผันไปตามระดับความดิบและการตกแต่งที่เลือกใช้
ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับสไตล์ใดสไตล์หนึ่งเป๊ะ ๆ เราสามารถผสมผสานองค์ประกอบที่ชอบจากหลาย ๆ สไตล์เข้าด้วยกันได้ เพื่อสร้างสรรค์พื้นที่ที่สะท้อนความเป็นตัวตนของเรามากที่สุด
สรุปบทความ
บ้านสไตล์โมเดิร์นไม่ได้มีเพียงรูปแบบเดียว การทำความเข้าใจลักษณะเด่นของแต่ละสไตล์ย่อย ตั้งแต่ Modern Luxury ที่หรูหรา ไปจนถึง Modern Minimal ที่เรียบง่าย จะช่วยให้คุณค้นพบแนวทางที่ใช่สำหรับบ้านของคุณ การเลือกสไตล์ที่เหมาะสมกับความชอบและไลฟ์สไตล์ จะทำให้บ้านของคุณไม่เพียงแต่สวยงามทันสมัย แต่ยังน่าอยู่และตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างสมบูรณ์แบบ