แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า การลงนามในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐ เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขาภิบาลอาหารและน้ำ โดยกรมอนามัยมีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบาย กลยุทธ์ และแนวทางการดำเนินงานด้านสุขาภิบาลอาหารและน้ำ รวมทั้งพัฒนาระบบฐานข้อมูลที่สามารถเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลผลการตรวจวิเคราะห์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อใช้ในการติดตาม ประเมิน และรายงานสถานการณ์ต่อผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบ กรมอนามัยยังให้การสนับสนุนทางวิชาการและข้อมูลเชิงพื้นที่ พร้อมประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อขับเคลื่อนงานสุขาภิบาลอาหารและน้ำอย่างบูรณาการ และร่วมติดตาม ประเมินผล รวมถึงเสนอแนวทางพัฒนาให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
"อีกทั้ง ยังเป็นการสานต่อความร่วมมือเดิมระหว่างกรมอนามัยและ CLT ที่เคยลงนามร่วมกันเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2565 เพื่อยกระดับกระบวนการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการและการวิจัยใหม่ ๆ ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก รวมถึงเพิ่มความเชื่อมโยงระหว่างข้อมูลสุขาภิบาลอาหารและน้ำกับผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญในการพัฒนางานวิชาการให้ทันต่อยุคของกระแสแห่งการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว และมีความเชื่อมโยงใกล้ชิดกันมากขึ้น รวมถึงให้ทัดเทียมนานาประเทศ" อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
นายแพทย์ปกรณ์ ตุงคะเสรีรักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมอนามัย และ CLT ได้กำหนดแผนดำเนินงานร่วมกัน อาทิ 1) ให้ความร่วมมือในการศึกษาวิจัย พัฒนางานวิชาการที่เกี่ยวข้องกับบทบาทภารกิจของทั้งสองฝ่าย 2) ให้การสนับสนุนด้านบริการวิชาการ แลกเปลี่ยนข้อมูลผลการวิเคราะห์คุณภาพน้ำ แลกเปลี่ยนข่าวสาร องค์ความรู้ และสนับสนุนการจัดทำหลักสูตรฝึกอบรมด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานด้านสุขาภิบาลอาหารและน้ำ และสอดคล้องกับบทบาทภารกิจของทั้งสองฝ่าย 3) ให้ความร่วมมือและให้การสนับสนุนในด้านบริการทางห้องปฏิบัติการ หรือบริการด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบทบาทภารกิจของทั้งสองฝ่าย 4) ให้การสนับสนุนการเผยแพร่ สื่อสารข้อมูลข่าวสาร องค์ความรู้แก่หน่วยงาน/องค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชน และสื่อสารความเสี่ยง สร้างความรอบรู้แก่ประชาชนโดยทั่วไป และ 5) ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินงานในเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบทบาทภารกิจของทั้งสองฝ่าย ถือเป็นการบูรณาการพลังระหว่างภาครัฐ ที่มีเป้าหมายร่วมกันคืออยากเห็นประชาชนคนไทยมีสุขภาพแข็งแรงและปลอดภัย กรมอนามัย และ CLT จึงผนึกกำลังกันในการขับเคลื่อนงานด้านสุขาภิบาลอาหารและน้ำ และรองรับความเสี่ยงด้านอาหารและน้ำในอนาคต เพื่อเป็นหลักประกันให้คนไทยได้บริโภคอาหารและน้ำดื่มที่สะอาด ปลอดภัย อย่างยั่งยืน
