"เอ็นแอลซูเปอร์แท็กซ์" เผยกลยุทธ์ยกระดับธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน การบริหารภาษีและทรัพย์สินอย่างชาญฉลาดผ่าน "Holding Company"

"เอ็นแอลซูเปอร์แท็กซ์" เผยกลยุทธ์ยกระดับธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน การบริหารภาษีและทรัพย์สินอย่างชาญฉลาดผ่าน "Holding Company"

Monday 3 November 2025 12:58
"เอ็นแอลซูเปอร์แท็กซ์" เผยกลยุทธ์ยกระดับธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน การบริหารภาษีและทรัพย์สินอย่างชาญฉลาดผ่าน "Holding Company"

บมจ.เอ็นแอลซูเปอร์แท็กซ์เผยผู้ประกอบธุรกิจขนาดย่อมจำนวนไม่น้อย ถือหุ้นหลายบริษัทแต่ไม่ได้วางแผนภาษีอย่างเป็นระบบ ทำให้เกิดความเสี่ยงและต้องจ่ายภาษีซ้ำซ้อน แนะกลยุทธ์ "Holding Company" ยกระดับและสร้างความมั่นคงให้กับธุรกิจในระยะยาว

นายนิพนธ์ งามทรัพย์ทวีคูณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นแอล ซูเปอร์แท็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NL SUPER TAX เปิดเผยว่า ธุรกิจที่มีการเติบโตและมีบริษัทย่อยหลายแห่ง นอกจากจะต้องให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ต่าง ๆ ในการขยายธุรกิจ ยังต้องให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการป้องกันความเสี่ยง รวมทั้งการบริหารภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากยังมีธุรกิจ SMEs จำนวนมากจ่ายภาษีซ้ำซ้อน เพราะไม่ได้วางแผนโครงสร้างธุรกิจอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ถือหุ้นในบริษัทย่อยด้วยชื่อบุคคลธรรมดา อาจต้องเผชิญกับภาระภาษีจากเงินปันผลที่สูงเกินความจำเป็น

ดังนั้น ผู้ประกอบการควรวางแผนภาษีโดยใช้กลยุทธ์ "Holding Company" เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการยกระดับการบริหารความมั่นคงให้กับธุรกิจ เนื่องจากบริษัทโฮลดิ้งเป็นบริษัทที่ไม่ได้ทำธุรกิจหลักเอง แต่มีวัตถุประสงค์ในการถือหุ้นในบริษัทย่อย ซึ่งเป็นกลยุทธ์มาตรฐานระดับโลกที่ใช้ในการจัดการกลุ่มธุรกิจ และเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการวางแผนภาษีที่ถูกกฎหมายและมีประสิทธิภาพ

นายนิพนธ์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การใช้กลยุทธ์ Holding Company จะช่วยให้ผู้ประกอบการประหยัดภาษี เนื่องจากตามกฎหมายภาษีระบุว่า หากการถือหุ้นในบริษัทโฮลดิ้งเข้าเงื่อนไขตามที่กรมสรรพากรกำหนด เช่น ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 25% และถือครองตามระยะเวลา เงินปันผลที่ได้รับจากบริษัทลูกจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเต็มจำนวน ช่วยให้เงินปันผลจำนวนเต็มถูกพักไว้ในบริษัทโฮลดิ้ง เพื่อนำไปลงทุนต่อยอดในธุรกิจอื่น หรือสำรองไว้ใช้ในอนาคต โดยไม่มีภาระภาษีซ้ำซ้อน ช่วยให้กระแสเงินสดของกลุ่มธุรกิจมีความคล่องตัวและเติบโตได้เร็วขึ้น

นอกจากนี้แล้ว ยังช่วยบริหารสภาพคล่องภายในกลุ่มธุรกิจด้วยต้นทุนภาษีที่ต่ำลง เนื่องจากในกลุ่มธุรกิจที่มีการโอนเงินระหว่างกัน เช่น การให้บริษัทย่อยกู้ยืมเงิน บริษัทโฮลดิ้งที่ให้กู้ยืมแก่บริษัทลูกตามกฎเกณฑ์ จะได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% สำหรับรายได้ดอกเบี้ยที่ได้รับ ช่วยให้การจัดการเงินทุนภายในกลุ่มมีความยืดหยุ่นและลดภาระภาษีที่ไม่จำเป็น ทำให้การสนับสนุนสภาพคล่องทางการเงินระหว่างบริษัทในเครือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

"การตั้งบริษัทโฮลดิ้งยังช่วยป้องกันความเสี่ยงและคุ้มครองทรัพย์สินหลัก การแยกที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ หรือทรัพย์สินทางปัญญาไปถือครองไว้ที่ Holding Company เป็นการสร้างเกราะป้องกันที่แข็งแกร่ง เพราะหากบริษัทย่อยใดบริษัทหนึ่งประสบปัญหาฟ้องร้องหรือขาดทุนอย่างหนัก เจ้าหนี้จะไม่สามารถเข้าถึงทรัพย์สินหลักที่ถือครองโดยบริษัทโฮลดิ้งได้ เนื่องจากเป็นนิติบุคคลที่แยกออกจากกันอย่างเด็ดขาด เป็นการปกป้องความมั่งคั่งทางธุรกิจได้ในระยะยาว" นายนิพนธ์กล่าว