สมาคมแพทย์โรคหัวใจฯ มูลนิธิหัวใจฯ และชมรมคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจฯ ร่วมกับฟิลิปส์ สานต่อโครงการ "หัวใจสัญจร"

ยกระดับการตรวจหัวใจในพื้นที่ห่างไกล ณ โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์

Friday 7 November 2025 13:51
สมาคมแพทย์โรคหัวใจฯ มูลนิธิหัวใจฯ และชมรมคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจฯ ร่วมกับฟิลิปส์ สานต่อโครงการ "หัวใจสัญจร"

โรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular Diseases : CVDs) เป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตทั่วโลก โดยคร่าชีวิตผู้คนไปประมาณ 17.9 ล้านคนในแต่ละปี นอกจากนั้นเกือบ 80% ของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากโรคหัวใจและหลอดเลือดสามารถป้องกันได้ หากสามารถเข้าถึงการดูแลรักษา หรือได้รับการตรวจคัดกรองตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และหากมีโอกาสในการดูแลสุขภาพด้านโภชนาการที่ดีและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ดังนั้น สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ มูลนิธิโรคหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์, ชมรมคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจแห่งประเทศไทย, โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ และบริษัท ฟิลิปส์ (ประเทศไทย) จำกัด จึงได้สานต่อโครงการ "หัวใจสัญจร" ณ โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ เพื่อขยายการตรวจคัดกรองผู้ป่วยโรคหัวใจออกไปในพื้นที่ห่างไกล เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการตรวจคัดกรองโรคหัวใจ และสามารถเข้ารับการรักษาได้อย่างทันท่วงที พร้อมยกระดับในปีนี้ด้วยการจัดฝึกอบรมนักศึกษาแพทย์ในจังหวัดชุมพรให้เข้ารับการฝึกการตรวจคัดกรองด้วยเครื่องอัลตราซาวด์หัวใจ (Echocardiography) โดยอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่ และร่วมสร้างระบบสาธารณสุขไทยที่เข้มแข็งและทั่วถึง

แพทย์หญิงปัทมพันธ์ อนันตาพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ กล่าวว่า "ทางโรงพยาบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญในการเข้าถึงระบบสาธารณสุขของประชาชนในพื้นที่ เราจึงมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาในด้านต่างๆ ทั้งการนำเทคโนโลยีทางการแพทย์เข้ามาช่วยในการดูแลรักษาผู้ป่วย การพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาล และส่งเสริมการพัฒนานักศึกษาแพทย์ในพื้นที่ และงานฯ ในวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งความตั้งใจของเราที่ต้องการยกระดับการดูแลรักษาโรคหัวใจ เนื่องจากเรามีบุคลากรทางการแพทย์เฉพาะทางจำกัด แต่มีผู้ป่วยต้องการเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคหัวใจกว่า 50 ราย เราต้องขอขอบคุณทางสมาคมแพทย์โรคหัวใจฯ และพันธมิตรที่ได้ลงพื้นที่มาช่วยเราในครั้งนี้ นอกจากการตรวจคัดกรองผู้ป่วยแล้ว เรายังมีการจัดฝึกอบรมให้กับบุคลากรและนักศึกษาแพทย์ในพื้นที่เพื่อให้สามารถตรวจคัดกรองผู้ป่วยได้เองในระยะยาว"

ศาสตราธิคุณแพทย์หญิงสมนพร บุณยะรัตเวช สองเมือง อุปนายกสมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า "โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นปัญหาสาธารณสุขระดับประเทศที่น่ากังวล เนื่องจากระบบคลังข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพ (HDC) ปี 2568 ระบุว่ามีผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดสะสมมากกว่า 260,000 ราย อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในโรคที่สร้างภาระทางเศรษฐกิจสูง จากข้อมูลกรมการแพทย์ ระบุว่าประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเฉลี่ยของผู้ป่วยโรคหัวใจถึง 6,906 ล้านบาทต่อปี ขณะที่ประเทศไทยมีแพทย์เฉพาะทางด้านหัวใจเพียงราว 500-600 คน และส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในเมืองใหญ่ ทำให้ผู้ป่วยในหลายพื้นที่ยังเข้าไม่ถึงบริการเฉพาะทางอย่างทั่วถึง ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการจัดการโรคหัวใจอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง จึงเป็นที่มาของความร่วมมือในโครงการฯ ในครั้งนี้ ซึ่งสะท้อนพันธกิจสำคัญของสมาคมฯ ที่ไม่เพียงแต่มุ่งมั่นในการช่วยเผยแพร่ความรู้เชิงป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงโรคหัวใจในคนไทยเท่านั้น แต่ยังเดินหน้ายกระดับการดูแลโรคหัวใจของประเทศอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพอีกด้วย ตลอด 3 ครั้งที่ผ่านมา เราได้ลงพื้นที่ในหลายจังหวัดทั้งกระบี่ สระแก้ว และแม่ฮ่องสอน เพื่อขยายการตรวจคัดกรองโรคหัวใจไปยังพื้นที่ห่างไกล โดยทางสมาคมแพทย์โรคหัวใจฯ ได้รับความร่วมมือจากหลากหลายหน่วยงานรวมทั้งฟิลิปส์ในการผลักดันโครงการนี้ให้ประสบความเร็จ สำหรับปีนี้ ซึ่งเป็นปีที่ 4 โครงการได้สานต่อภารกิจอีกครั้ง ณ จังหวัดชุมพร ภายใต้การสนธิกำลังของภาคีพันธมิตรในการออกหน่วยตรวจ เพื่อนำส่งต่อการรักษาต่อไป และในปีนี้เรายังได้ยกระดับโครงการฯ จากการตรวจคัดกรองเพียงอย่างเดียว มาบูรณาการจัดฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่ด้วย เพื่อเพิ่มพูนองค์ความรู้ให้อยู่ต่อในพื้นที่และบุคลากรที่เข้าร่วมฝึกอบรมจะสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจต่อไป"

"การจัดการโรคหัวใจอย่างมีประสิทธิภาพ ต้องเริ่มจากการสร้างความตระหนักรู้ให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญของการตรวจคัดกรองตั้งแต่ระยะเริ่มต้น โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้ที่มีภาวะเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หรือภาวะอ้วนลงพุง เพราะหากได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา ลดการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และลดอัตราการเสียชีวิตได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยการตรวจคัดกรองโรคหัวใจแบบหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูง คือการตรวจด้วยเครื่องอัลตราซาวด์หัวใจ (Echocardiography) แบบ 3 มิติ ที่นำมาใช้ในโครงการฯ นี้ โดยเทคโนโลยีนี้ใช้หลักคลื่นเสียงความถี่สูงในการสร้างภาพเคลื่อนไหวของหัวใจแบบเรียลไทม์ และประมวลผลภาพสามมิติที่ช่วยให้แพทย์เห็นโครงสร้างหัวใจ หลอดเลือด และการไหลเวียนของเลือดได้อย่างสมจริงและละเอียดในทุกมิติ จึงช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวินิจฉัยและความมั่นใจในการวางแผนการรักษา สำหรับการตรวจด้วยเครื่องอัลตราซาวด์หัวใจจะไม่มีรังสีที่เป็นอันตราย ผู้ป่วยตั้งครรภ์จึงสามารถเข้ารับการตรวจได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการยกระดับคุณภาพของการตรวจหัวใจ นอกจากนี้ เรายังมีการนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์เฉพาะทาง ที่เรียกว่าระบบ ISCV (IntelliSpace Cardiovascular) มาใช้ในการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลในการตรวจในครั้งนี้ เพื่อการจัดการข้อมูลอย่างเป็นระบบ และช่วยในการส่งต่อข้อมูลผู้ป่วยได้อย่างถูกต้อง" ศาสตราธิคุณแพทย์หญิงสมนพร กล่าวเพิ่มเติม

นายวิโรจน์ วิทยาเวโรจน์ ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลิปส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ฟิลิปส์ ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อการดูแลสุขภาพ นอกจากการนำเสนอนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ล้ำสมัยแล้ว เรายังให้ความสำคัญกับการผลักดันด้านการเข้าถึงระบบสาธารณสุขและการยกระดับการดูแลรักษาผู้ป่วยให้ดีขึ้นด้วย ดังนั้น เราจึงให้การสนับสนุนและได้ทำงานร่วมกันกับสมาคมแพทย์โรคหัวใจฯ ในการดำเนินโครงการเพื่อสังคมมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ความร่วมมือกับสมาคมแพทย์โรคหัวใจฯ ได้เปิดโอกาสให้เรานำเทคโนโลยีการตรวจวินิจฉัยโรคหัวใจเคลื่อนที่เข้าถึงชุมชนทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้ารับการตรวจและดูแลสุขภาพหัวใจได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น โครงการนี้สะท้อนถึงเจตนารมณ์ของฟิลิปส์ ที่เชื่อว่านวัตกรรมจะมีคุณค่าอย่างแท้จริง เมื่อสามารถช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนได้จริง"

สมาคมแพทย์โรคหัวใจฯ มูลนิธิหัวใจฯ และชมรมคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจฯ ร่วมกับฟิลิปส์ สานต่อโครงการ "หัวใจสัญจร"