SAFE โชว์ผลงาน Q3/68 กำไรแตะ 34.9 ลบ. บริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายดีเยี่ยม มั่นใจดีมานด์ IVF โค้งสุดท้ายปี 68 โตแรงรับเทรนด์โลก

บมจ.เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป (SAFE) เปิดผลงานไตรมาส 3/2568 มีกำไรส่วนของบริษัทใหญ่ 34.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.4 % เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดี ฟากบิ๊กบอส "นพ.วิวัฒน์ กว้างคณานุรักษ์" ระบุ มั่นใจตลาดบริการรักษาภาวะมีบุตรยากของไทยช่วงโค้งสุดท้ายปี 2568 สามารถขยายตัวได้ดี จากความต้องการใช้บริการที่ยังเพิ่มขึ้นทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ สอดคล้องไปกับเทรนด์โลก

Friday 7 November 2025 14:44
SAFE โชว์ผลงาน Q3/68 กำไรแตะ 34.9 ลบ. บริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายดีเยี่ยม มั่นใจดีมานด์ IVF โค้งสุดท้ายปี 68 โตแรงรับเทรนด์โลก

นพ.วิวัฒน์ กว้างคณานุรักษ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (SAFE) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2568 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568) มีกำไรส่วนของบริษัทใหญ่ 34.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.9 ล้านบาท หรือ 16.4 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรส่วนของบริษัทใหญ่ 29.9 ล้านบาท ส่งสัญญาณแนวโน้มผลการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องในทุกไตรมาส

ปัจจัยที่ทำให้ผลดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3/2568 ปรับตัวดีขึ้นมาจากการบริหารจัดการควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพในส่วนของการให้บริการและต้นทุนขาย ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น รวมถึงแนวโน้มจากการให้บริการรักษาผู้มีบุตรยาก และรายได้จากการให้บริการตรวจพันธุกรรมของตัวอ่อนและทารกในครรภ์ยังสามารถเติบโตได้ดีตามแผน

ทั้งนี้ ตัวเลขจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจบริการรักษาภาวะมีบุตรยากพบว่า ตลาดบริการรักษาภาวะมีบุตรยากของไทยในปี 2568 คาดมีมูลค่าราว 6,100 ล้านบาท ขยายตัว 3.1% จากความต้องการใช้บริการที่ยังเพิ่มขึ้นทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สอดคล้องไปกับเทรนด์โลก จากค่านิยมการมีบุตรช้าลง และปัญหาด้านการเจริญพันธุ์ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ทำให้ต้องพึ่งพาวิธีการรักษาด้วยวิธี IVF ทำให้ SAFE สามารถดึงดูดการเข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น จากคุณภาพของการบริการที่ดีเยี่ยม

ปัจจุบัน SAFE แบ่งเป็นชาวไทยและชาวต่างชาติในสัดส่วนราว 50:50 แม้ผู้รับบริการจากบางประเทศ อาจจะชะลอตัวจากผลกระทบทางเศรษฐกิจ แต่ SAFE ยังคงได้รับความไว้วางใจจากตลาดต่างประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะอินเดีย เวียดนาม ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดที่เติบโตขึ้น รวมถึงกลุ่มชาวต่างชาติอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย นอกจากนี้ บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกัน ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาและเจรจา เพื่อนำเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจและสร้างการเติบโตในระยะยาว

"แนวโน้มโค้งสุดท้ายของปี 2568 ยังได้รับแรงหนุนจากการที่ NGG (Next Generation Genetics Thailand) ได้ดำเนินการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยตรวจ NIPT (Non-Invasive Prenatal Testing) กับ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่ได้ให้การสนับสนุนตรวจ NIPT ฟรี สำหรับกลุ่มหญิงตั้งครรภ์กลุ่มเป้าหมาย คาดการณ์ว่าจะสามารถรับเคสได้ภายในสิ้นปีนี้" นพ.วิวัฒน์ กล่าวในที่สุด

SAFE โชว์ผลงาน Q3/68 กำไรแตะ 34.9 ลบ. บริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายดีเยี่ยม มั่นใจดีมานด์ IVF โค้งสุดท้ายปี 68 โตแรงรับเทรนด์โลก