นายมงคล ลีลาธรรม ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิสัมมาชีพกล่าวว่า มูลนิธิสัมมาชีพร่วมกับองค์กรภาคีจัดทำ โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและการพัฒนาท้องถิ่น เพื่อศึกษาถึงวิธีการสร้างเศรษฐกิจใหม่ให้ประเทศจากพลังของชุมชน รวมถึงศึกษาถึงการสร้างโอกาสใหม่ของท้องถิ่นจากความรู้ ประสบการณ์ และนวัตกรรม เพื่อจะนำผลการศึกษามาจัดทำเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากต่อภาครัฐต่อไป โดยขณะนี้ทางคณะผู้วิจัยได้ศึกษาความสำเร็จของกลุ่มผู้ประกอบการชุมชนระดับแนวหน้าทั้งไทยและต่างประเทศ และจะจัดงานสัมมาชีพวิชาการ "นวัตกรรมสังคมกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก" ขึ้นในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 ณ ห้องแกรนด์ บอลรูม 1 โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพฯ เพื่อเผยแพร่ถึงแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากต่อไป
"แนวคิดของมูลนิธิสัมมาชีพมุ่งสร้างพลังจากชุมชนฐานรากให้เป็นต้นทางของความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม มูลนิธิฯ จึงร่วมกับองค์กรภาคีศึกษาวิธีการสร้างเศรษฐกิจใหม่ของชุมชนต้นแบบทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อจัดทำเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสใหม่ให้กับท้องถิ่น หรือยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งจากภายในต่อไป" ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิสัมมาชีพ กล่าว
"นวัตกรรมสัมมาชีพ"
พลังสร้างเศรษฐกิจใหม่
นายมงคลกล่าวต่อว่า การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโตอย่างยั่งยืนได้จะต้องยึด "หลักสัมมาชีพ" และใช้นวัตกรรมเป็นเครื่องมือ เรียกว่า "นวัตกรรมสัมมาชีพ" หรือการใช้นวัตกรรมบนฐานของความสุจริตและคุณธรรม ซึ่งมีองค์ประกอบสำคัญ 3 ด้านคือ
- ความใหม่บนความสุจริต (Newness for Good) นั่นคือ การสร้างสรรค์สินค้าและบริการที่ดีขึ้น โดยมีความซื่อสัตย์ เช่น การพัฒนาอาหารปลอดภัยไร้สารเคมี
- พลังปัญญาและองค์ความรู้ (Knowledge Power) การส่งเสริมให้ชุมชนมี "วัฒนธรรมแห่งความรู้" พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ค้นคว้าและต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ บริการ
- สร้างคุณค่าเพื่อขับเคลื่อนฐานราก (Root-Driven Value Creation) การพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ชุมชน แก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจริง ไม่ใช่แค่เพิ่มยอดขาย
"แนวทางนี้ยังสอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจโลก และแนวคิดของนักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลปี 2568 ที่ย้ำว่า "นวัตกรรมที่เติบโตจากวัฒนธรรมแห่งความรู้ คือหัวใจของการพัฒนาอย่างยั่งยืน" นายมงคลกล่าว
ยกระดับชุมชน
สู่ "เศรษฐกิจใหม่"
เขากล่าวต่อว่า มูลนิธิสัมมาชีพมองว่า การสร้างเศรษฐกิจใหม่ (New S-Curve) ของประเทศไทย ต้องเริ่มจากการผสานความรู้ใหม่เข้ากับจุดแข็งของชุมชน ไม่ว่าจะเป็นทุนทางธรรมชาติ ทุนทางภูมิปัญญา และทุนทางวัฒนธรรม เช่น สินค้า GI, หัตถกรรมพื้นถิ่น, อาหารสุขภาพ, สมุนไพร และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ และพัฒนาให้มีมูลค่าสูงขึ้นได้ด้วยนวัตกรรมที่เหมาะสม
3 ขั้นตอน
สร้าง "นวัตกรรมสัมมาชีพ" ฐานราก
ทั้งนี้แนวทางที่ผู้ประกอบการชุมชนจะใช้จุดแข็งสร้างความสำเร็จและขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นได้นั้น จะเป็นกระบวนการที่เชื่อมโยงระหว่างนวัตกรรมกับแนวทางของสัมมาชีพหรือความยั่งยืน นั่นคือ
การเชื่อมโยงองค์ความรู้ (Knowledge Connection) หรือการเปิดรับองค์ความรู้และนวัตกรรมทั้งในและต่างประเทศ แล้วต่อยอดจาก "รากเดิม" ของท้องถิ่น
การแปรสภาพอย่างมีคุณธรรม (Ethical Transformation) การผสานเทคโนโลยีและภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อเพิ่มมูลค่า โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมหรือวัฒนธรรม
สร้างคุณค่าและเครือข่าย (Value & Network Creation) การสร้างประโยชน์สร้างคุณค่าที่มากกว่าประเด็นของรายได้สู่ชุมชน และสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างรัฐ เอกชน และชุมชนอย่างเป็นธรรม
"นวัตกรรมสัมมาชีพ คือการสร้าง "เศรษฐกิจใหม่" ที่เติบโตจากรากแก้วที่แข็งแรง ด้วยการใช้พลังของวัฒนธรรมแห่งความรู้ มาปลดล็อกศักยภาพของทุนทางภูมิปัญญาและทุนธรรมชาติที่ประเทศเรามีอยู่
นี่คือแนวทางสู่การเป็นประเทศที่มีการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในระดับชุมชนฐานรากอย่างยั่งยืน และสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อโครงสร้างเศรษฐกิจโดยรวมของเราอย่างแท้จริง" นายมงคล กล่าว
ชวนร่วมเวที
นวัตกรรมสังคมขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก
สำหรับเวทีวิชาการ "นวัตกรรมสังคมกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก" ครั้งนี้ จะมีบุคคลที่ขับเคลื่อนนโยบายและการลงมือทำจริงด้านฐานรากเข้าร่วม ตั้งแต่ นายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ รองประธานกรรมการมูลนิธิสัมมาชีพ และกรรมการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ รองประธานกรรมการมูลนิธิสัมมาชีพ และอดีตอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "ประสบการณ์การขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของรัฐและเอกชน" นายมงคล ลีลาธรรม ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิสัมมาชีพ ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "สัมมาชีพ พลังขับเคลื่อนฐานรากและท้องถิ่น" และดร.สุนทร คุณชัยมัง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนานวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต จะนำเสนอผลการวิจัยในหัวข้อ "แนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและโอกาสของการสร้างหัวขบวนเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น"
ผู้สนใจการยกระดับพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน นักวิชาการ นักพัฒนา ผู้นำชุมชน หรือประชาชนทั่วไป สามารถเข้าร่วมงานได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 ณ ห้องแกรนด์ บอลรูม 1 โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพฯ ลงทะเบียนร่วมงาน ที่ https://forms.gle/6ojPN1rbedd9nojRA หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม คุณเบญจมาศ โทร. 086-358-7287