3 เมนูพิเศษจากรากวัฒนธรรมอีสานสู่รสชาติร่วมสมัย
- "โหยยไก่บ้านผือ": เมนูพื้นถิ่นจากอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี เดิมเสิร์ฟเป็นแกงพร้อมเครื่องเคียงอย่างขนมจีน ผัก และน้ำจิ้ม เชฟหนุ่ม ได้นำมาปรับปรุงใหม่ให้มีความแปลกใหม่และทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยเสิร์ฟบนสาหร่ายไกย่าง วางใบชะพลู ขนมจีน แตงล้านซอย ขนมจีน ใส่โหยยไก่ ที่ต้มไก่กับขมิ้นจนเนื้อเด้ง Topping ด้วยอ่องมันปูนา พร้อมเสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มสูตรดั้งเดิม รสชาติเปรี้ยวอมหวาน หอมกลิ่นกะปิ เสิร์ฟพร้อมผักสด ที่ยกระดับรสชาติด้วยเทคนิคเฉพาะตัวของเชฟ
- "ซิ่นคอหมูย่างไฟ" : เมนูที่มีลักษณะคล้ายแกงอ่อมแต่เข้มข้นและรสจัดจ้านกว่า โดยใช้เทคนิคการปรุงแบบดั้งเดิมที่นำเครื่องปรุงและใส่คอหมูในหม้อ แล้วใช้ภาชนะใส่น้ำเย็นวางด้านบน เพื่อให้ไอน้ำและน้ำจากคอหมูและผักค่อย ๆ ออกมาทำให้รสชาติกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น จากนั้นนำมาย่างไฟอีกครั้งจนมีกลิ่นหอม เสิร์ฟพร้อม น้ำจิ้มซีฟู้ดรสข่า ที่มีกลิ่นหอมและรสเผ็ดอ่อน ๆ เป็นการตีความเมนูง่าย ๆ ให้กลายเป็นรสชาติที่อร่อย เข้มข้น และสร้างความประหลาดใจในทุกคำ
- "ปลาเผาะทอดน้ำปลาร้าหวาน": สร้างความน่าสนใจและสนุกให้กับอาหารทอด เชฟหนุ่มได้เลือกปลาเผาะ ปลาจากลุ่มน้ำโขง เนื้อเด้งอร่อยมาทอด แล้วนำน้ำปลาร้าสูตรลับของส้มตำนัว มาปรุงรสชาติให้ เค็มนัวหวาน ตัดด้วยน้ำมะขามเล็กน้อย พร้อมโรยหน้าด้วยเครื่องเคียง เมื่อรับประทานทุกอย่างพร้อมกัน จะเกิดความ "นัว" ที่สมดุลอย่างคาดไม่ถึง
"Next Chapter" ของส้มตำนัว
คุณแพม-อภิรัตน์ อังกุรนาค ผู้อำนวยการอาวุโสแบรนด์ส้มตำนัว (SOMTAMNUA) กล่าวว่า "นี่ไม่ใช่แค่เมนูพิเศษ แต่คือ Next Chapter ของส้มตำนัว" โดยเน้นย้ำถึงความตั้งใจที่จะพิสูจน์ว่า อาหารอีสานไม่ได้หยุดอยู่แค่ความดั้งเดิม แต่เราแค่ไม่หยุดพัฒนาความสร้างสรรค์ใหม่ๆ เพื่อแสดงให้เห็นว่า รสชาติที่แท้จริงไม่จำเป็นต้องหยุดนิ่ง แต่สามารถเติบโตเป็นความพิเศษที่โลกต้องจดจำได้และยังคงไว้ซึ่ง 'วิญญาณลูกแห่งอีสาน' โดยไม่ละทิ้งความ 'นัว' ดั้งเดิมเลยแม้แต่น้อย"
ด้าน เชฟหนุ่ม-วีระวัฒน์ ตริยเสนวรรธน์ จากร้าน Samuay & Sons ได้เสริมว่า กล่าวเสริมว่า "อาหารอีสานคือวัฒนธรรมที่มีชีวิต เราแค่อยากให้คนรุ่นใหม่เห็นว่า ความสนุกสนาน อยู่ในความเป็นอีสาน ที่รวมไปถึง อาหาร!!! รสชาติที่คุ้นเคย แต่ไม่จำเจ ความแปลกที่พาเราม่วนและแซ่บ ได้ตลอดเวลา เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครของวัฒนธรรมอีสานบ้านเรา"
การผนึกกำลังในครั้งนี้ไม่เพียงแต่สร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า แต่ยังเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ตอกย้ำจุดยืนของส้มตำนัวในฐานะ "ผู้นำอาหารอีสานต้นตำรับ ที่กล้าเล่นใหญ่" เพื่อสร้างความแตกต่างในตลาดที่มีการแข่งขันสูง นี่คือกลยุทธ์ที่ออกแบบมาเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำตลาดอาหารอีสานอย่างมีศิลปะ สร้างสรรค์ "เรื่องราวบนจาน" ที่ดึงดูดใจจนต้องแชร์ต่อ โดยสามารถ สร้างความตื่นเต้น ให้กับฐานลูกค้าประจำ และ เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มองหาความพิเศษได้อย่างสมบูรณ์แบบ นี่คือการประกาศว่า... อาหารอีสานดั้งเดิมสามารถเป็นแรงขับเคลื่อนแห่งอนาคต ด้วยวิสัยทัศน์ที่ "ฉลาด" "กล้า" และ "ไม่เคยหยุดนิ่ง"
เมนู Collaboration สุดพิเศษนี้ เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่ร้านส้มตำนัวทุกสาขา และผ่านแอปพลิเคชันเดลิเวอรี่ที่ร่วมรายการ
