นายประพันธ์ ศิริวิริยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ จำกัด (มหาชน) หรือ KTIS (เคทิส) ผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำตาลและอุตสาหกรรมต่อเนื่องครบวงจร สู่ BCG อย่างยั่งยืน เปิดเผยว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งกับผลสำเร็จในปีแรกของความร่วมมือกับ Suntory Holdings Limited และ VIVE ในการทดลองภาคสนามตามหลักการของการเกษตรเชิงฟื้นฟู (Regenerative Agriculture: RA) โดยมีเป้าหมายเพื่อวัดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการปลูกอ้อยด้วยแนวทาง RA เทียบกับวิธีการเกษตรแบบดั้งเดิม ซึ่งโครงการนี้เป็นแนวทางแบบองค์รวมในการทำความเข้าใจและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการปลูกอ้อย และจะช่วยกำหนดแนวทางสำหรับการขยาย RA ในเชิงพาณิชย์ในห่วงโซ่อุปทาน
"นับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับการผลิตน้ำตาลทรายของไทยสู่ความยั่งยืน และกลุ่ม KTIS ก็มุ่งมั่นที่จะนำแนวทางเกษตรเชิงฟื้นฟูมาใช้จริงในกระบวนการผลิตทั้งห่วงโซ่อุปทาน" นายประพันธ์กล่าว
ทั้งนี้ ผลการทดลองภาคสนามในปีแรกชี้ว่า แนวทาง RA ช่วยรักษาสุขภาพดินได้ดีกว่าเกษตรแบบดั้งเดิม ที่โดยปกติปริมาณอินทรียวัตถุในดิน (SOM) จะลดลง แต่แปลงทดลองพบว่า สามารถรักษาระดับ SOM ได้สูงกว่า อีกทั้งธาตุอาหารในดิน เช่น แมกนีเซียมและฟอสฟอรัส มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สะท้อนคุณภาพดินที่ดีขึ้นอีกด้วย
ด้านผลการลดก๊าซเรือนกระจก จากพื้นที่ที่น้ำท่วมขังพบว่า การปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลง 37% และความเข้มข้นของการปล่อย (emissions intensity) ลดลงถึง 40% ในแปลงทดลองเมื่อเทียบกับแปลงควบคุม โดยแหล่งปล่อยหลักมาจากการใช้ปุ๋ยเคมี เชื้อเพลิงในฟาร์ม และเศษพืชเหลือทิ้ง ซึ่งหากมีการจัดการที่แม่นยำขึ้น จะช่วยลดการปล่อยได้มากยิ่งขึ้นในอนาคต
อย่างไรก็ตาม การขยายการใช้ RA ในเชิงพาณิชย์ยังต้องพิจารณาความสมดุลระหว่างต้นทุนและสิ่งแวดล้อม โดยแปลงทดลองมีต้นทุนสูงกว่า แต่ช่วยลดคาร์บอนได้มากกว่า ขณะที่แปลงควบคุมมีต้นทุนต่ำกว่าแต่ปล่อยก๊าซมากกว่า ซึ่งทั้ง 3 ฝ่าย จะร่วมกันเดินหน้าโครงการต่อเนื่องในปีที่ 2 และ 3 เพื่อให้ได้ข้อมูลมาสนับสนุนการวิเคราะห์นี้ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และสร้างกรอบแนวทางที่สมจริงมากขึ้นสำหรับการประเมินต้นทุนและคาร์บอนจากการนำ RA มาใช้ในการปลูกอ้อยในวงกว้าง
ขณะที่ Mr. Ben French ผู้อำนวยการร่วมของ VIVE ย้ำว่า การเกษตรเชิงฟื้นฟูเป็นพันธสัญญาระยะยาวที่ต้องอาศัยข้อมูล ความอดทน และการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง พร้อมชี้ว่าการทำงานร่วมกันของพันธมิตรจะช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ในการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมเกษตรโลก