Well-being Economy: "สุขภาพ" คือพลังเศรษฐกิจใหม่ที่คนไทยเลือกลงทุน

สุขภาพไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่การมองสุขภาพเป็น "การลงทุน" คือมุมมองใหม่ที่กำลังเปลี่ยนวิธีคิดของทั้งผู้บริโภคและธุรกิจในยุคปัจจุบัน เมื่อความเครียดจากเศรษฐกิจและชีวิตดิจิทัลกลายเป็นเรื่องสามัญ คนรุ่นใหม่กลับเลือกลงทุนในสุขภาพจิต สุขภาพกาย และคุณภาพชีวิตมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

Monday 17 November 2025 15:08
Well-being Economy: "สุขภาพ" คือพลังเศรษฐกิจใหม่ที่คนไทยเลือกลงทุน

การใช้จ่ายในหมวดสุขภาพของคนไทยเติบโตสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวม สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรมที่ลึกซึ้งของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพทั้งกายและใจมากขึ้น ตลาดที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ เช่น เวชศาสตร์ชะลอวัย สุขภาพจิต เทคโนโลยีฟิตเนส และอาหารเพื่อสุขภาพ กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในลักษณะ ก้าวกระโดด (exponential growth) และกลายเป็นหนึ่งใน "เศรษฐกิจใหม่" หรือ Well-being Economy ที่นักลงทุนทั่วโลกจับตามอง

ในประเทศไทย สถาบันการเงินเริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนไลฟ์สไตล์สุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพ หรือการจับมือกับพันธมิตรสายสุขภาพเพื่อสร้างสิทธิประโยชน์ที่ตรงใจผู้บริโภค เช่น เคทีซีที่ร่วมมือกับโรงพยาบาล คลินิกและแบรนด์สุขภาพชั้นนำ เพื่อให้สมาชิกสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพได้ง่ายขึ้น พร้อมรับสิทธิพิเศษผ่านบัตรเครดิต

คนไทยหันมา "ลงทุนในสุขภาพ" มากขึ้น

จากรายงานสุขภาพคนไทยปี 2568 โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และมหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า คนไทยกว่า 13.4 ล้านคน เผชิญปัญหาสุขภาพจิต โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนอายุ 15-29 ปี ซึ่งสะท้อนถึงความจำเป็นในการดูแลสุขภาพทั้งกายและใจ สำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) รายงานว่า คนไทยใช้จ่ายเฉลี่ยด้านสุขภาพประมาณ 6,000-8,000 บาทต่อเดือน โดยแบ่งเป็นค่าอาหารสุขภาพ ฟิตเนส และผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพจิต ซึ่งสะท้อนถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายอย่างมีสติและการเลือกบริโภคเพื่อความสบายใจที่แท้จริง

ตลาดสุขภาพไทยโตแรง ติดอันดับโลก

ประเทศไทยกำลังก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางของ Wellness Economy ในเอเชีย โดยมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 1.4 ล้านล้านบาท และเติบโตเฉลี่ย 28.4% ต่อปี ตามรายงานของ Global Wellness Institute และ BDMS Wellness Clinic ในขณะที่กระทรวงสาธารณสุขยังคาดการณ์ว่าในปี 2568 เศรษฐกิจที่เกี่ยวกับสุขภาพของไทยจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ถึง 690,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.39% ของ GDP โดยเน้นการพัฒนา 6 กลุ่มธุรกิจเป้าหมาย ได้แก่ นวดไทย สมุนไพร ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เครื่องมือแพทย์ ผลิตภัณฑ์ ATMPs และธุรกิจเสริมความงาม

KTC Wellness Hub: ช่องทางใหม่เพื่อสุขภาพองค์รวม

เพราะเรื่องของสุขภาพไม่ใช่ความฟุ่มเฟือย แต่คือการลงทุนระยะยาวในคุณภาพชีวิตที่ดีและยั่งยืน จากข้อมูลของเคทีซีพบว่า สมาชิกมีการใช้จ่ายในหมวดสุขภาพและความงามเพิ่มขึ้นใน 5 กลุ่มหลัก ได้แก่

  • Rebalance : คลินิกเฉพาะทางและบริการสุขภาพ
  • Refuel : อาหารที่ดีต่อสุขภาพ
  • Reconfident : เวชศาสตร์ฟื้นฟูและความงาม
  • Retreat / Revitalize : ที่พักเชิงสุขภาพ คลาสโยคะ ฟิตเนส
  • At-Home Service : บริการสุขภาพถึงบ้าน

โดยเคทีซีได้เปิด "KTC Wellness Hub" ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมสิทธิพิเศษจากพันธมิตรด้านสุขภาพใน 5 หมวดหลัก อาทิ โรงพยาบาล คลินิกเวชศาสตร์ชะลอวัย ฟิตเนส และบริการสุขภาพจิต เพื่อให้สมาชิกสามารถดูแลตัวเองได้อย่างต่อเนื่องและคุ้มค่า สิทธิพิเศษที่รวมอยู่ใน KTC Wellness Hub ไม่เพียงช่วยลดค่าใช้จ่าย แต่ยังสนับสนุนให้สมาชิกผู้บริโภคเข้าถึงบริการสุขภาพแบบองค์รวมได้ง่ายขึ้น สอดคล้องกับแนวโน้มการใช้จ่ายอย่างมีเหตุผล และการเลือกบริโภคเพื่อความสบายใจที่แท้จริง ศึกษารายละเอียดและสัมผัสประสบการณ์ด้านสุขภาพที่คุ้มค่า คลิก https://www.ktc.co.th/refined-wellness

เมื่อสุขภาพกลายเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนทั้งในด้านชีวิตและเศรษฐกิจ การลงทุนในสุขภาพจึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็น "ความจำเป็นใหม่" ที่กำลังขับเคลื่อนสังคมไทยไปข้างหน้า