สำหรับหนึ่งในไฮไลต์ของการประชุม คือ เวทีพิเศษด้านการค้าการลงทุนสินค้าเกษตรและอาหาร (Agricultural and Food Trade & Investment Cooperation Session) ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้แทนไทยนำเสนอศักยภาพด้านสินค้าเกษตร อาหารแปรรูป และเทคโนโลยีการผลิต พร้อมจับคู่ความร่วมมือกับผู้ประกอบการจีน "ไทยมีศักยภาพสูงด้านโลจิสติกส์และการกระจายสินค้าเกษตร-อาหารในภูมิภาค หากผนวกกับเครือข่ายขนส่งและตลาดจีน จะช่วยสร้างห่วงโซ่อุปทานที่ทรงพลังและแข่งขันได้ในระดับโลก" ผู้แทนสภาธุรกิจไทย-จีนกล่าว
การประชุมดังกล่าวถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการผลักดันบทบาทของไทยในเวที RCEP ซึ่งครอบคลุม 15 ประเทศ และเป็นเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยสภาธุรกิจไทย-จีนมีเป้าหมายในการ ดึงดูดการลงทุนและเทคโนโลยีโลจิสติกส์ใหม่ๆ จากจีน, ส่งเสริมการส่งออกและการจับคู่ธุรกิจสินค้าไทยวางตำแหน่งไทยเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าสู่ CLMV และอาเซียน
และการเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ยังสะท้อนถึงความร่วมมือภาคเอกชนไทย-จีนที่เติบโตต่อเนื่อง และช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของไทยในเศรษฐกิจภูมิภาคที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียว