"เจ้าท่า" เดินหน้าแผนปี 69 ยกระดับมาตรฐานงานนำร่อง เน้น !! ความปลอดภัยขยายบริการดิจิทัลเซอร์วิสสู่ระดับสากล

"เจ้าท่า" ชู 5 มาตรการ ปี 2569 ยกระดับงานนำร่องทั้งระบบ สู่มาตรฐานสากลปฏิรูปงานนำร่องไทยครั้งใหญ่ ดันบริการนำร่องเป็น E-Service เต็มรูปแบบตั้งแต่การขอใช้นำร่อง-ชำระเงิน-เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อความสะดวกและโปร่งใส สนับสนุนฝึกอบรมผู้นำร่องตามหลักสูตร IMO และเวที IMPA-APMPA เดินหน้าร่วมมือรัฐ-เอกชนทุกเขตท่า ปรับปรุงกระบวนการทำงาน มุ่งยกระดับไทยสู่ศูนย์กลางเดินเรือที่ปลอดภัย วางหมุดหมายขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็นจุดหมายเดินเรือที่ปลอดภัย โปร่งใส และมีประสิทธิภาพสูง รองรับการเติบโตของเศรษฐกิจการค้าทางน้ำอย่างยั่งยืน นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานของปี 2569 ว่า กรมเจ้าท่าให้ความสำคัญต่อการยกระดับคุณภาพการให้บริการและมาตรฐานความปลอดภัยของการนำร่องในทุกเขตท่า เพื่อรองรับการเติบโตของโลจิสติกส์ทางน้ำ และสนับสนุนระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปีนี้ถือเป็นปีแห่ง "การปรับระบบบริการสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบ (Full Digitization)" ควบคู่กับการสร้างบุคลากรนำร่องที่มีความเชี่ยวชาญสู่ระดับสากล เพื่อรองรับบทบาทของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางคมนาคมขนส่งทางทะเลในภูมิภาค "แผนงานปี 2569 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการยกระดับระบบนำร่องไทยให้มีมาตรฐานสูงขึ้นทั้งด้านเทคโนโลยี ความปลอดภัย และคุณภาพบุคลากร เพื่อสนับสนุนการเติบโตของท่าเรือไทย และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศในระยะยาว" นายกริชเพชร กล่าว

Monday 24 November 2025 09:33
"เจ้าท่า" เดินหน้าแผนปี 69 ยกระดับมาตรฐานงานนำร่อง เน้น !! ความปลอดภัยขยายบริการดิจิทัลเซอร์วิสสู่ระดับสากล

โดยในปี 2569 ทางสำนักนำร่อง กรมเจ้าท่า ได้วางแนวทาง 5 มาตรการเชิงรุก เพื่อยกระดับมาตรฐานงานนำร่องให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ดังนี้ 1) ยกระดับบริการขอใช้นำร่องออนไลน์ 100% ซึ่งกรมเจ้าท่า เตรียมวางขั้นตอนการขอใช้นำร่องและการชำระเงินค่าบริการในทุกเขตท่าให้เป็นระบบออนไลน์ (E-Service) ทั้งหมด โดยที่ไม่ต้องยื่นเอกสารที่สำนักงานอีกต่อไป สามารถชำระเงินผ่าน QR Code และพิมพ์ใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ได้ด้วยตนเอง เป็นการเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส 2) เปิดพื้นที่สังเกตการณ์การนำร่องแบบมี Third Party โดยสำนักนำร่องจะเชิญหน่วยงานภายใน-ภายนอกกรมเจ้าท่า รวมทั้งสำนัก/กองที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมสังเกตการณ์ขั้นตอนการนำร่องจริงบนเรือสินค้า เพื่อเพิ่มความเข้าใจ ติดตามมาตรฐาน และสร้างความร่วมมือในการทำงาน โดยประสานการสนับสนุนจากบริษัทเรือเป็นรายกรณี3) รณรงค์วัฒนธรรมความปลอดภัย และการสื่อสารระหว่างประเทศ ผู้นำร่องจะได้รับการส่งเสริมให้ตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัยในการทำงานตลอดเวลา พร้อมยกระดับการสื่อสารกับนายเรือต่างชาติ เพื่อให้การทำงานบนสะพานเดินเรือเป็นไปอย่างเข้าใจตรงกัน ลดความเสี่ยง และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย 4) เปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน โดยทุกเขตท่าจะจัดประชุมเปิดรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานรัฐ-เอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับฟังปัญหา ข้อเสนอแนะ และพัฒนาแนวทางบริการอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดทำแบบสำรวจความพึงพอใจทุก 3-6 เดือน เพื่อให้บริการตอบโจทย์มากที่สุด และ 5) เดินหน้าโครงการศึกษาพัฒนามาตรฐานการนำร่องทั่วประเทศ ซึ่งทางสำนักนำร่องร่วมกับสำนักแผนงานและกองต่าง ๆ จัดตั้งคณะกรรมการว่าจ้างที่ปรึกษา เพื่อศึกษาระบบการนำร่องแบบองค์รวมในทุกมิติ ตามงบประมาณปี 2569 โดยได้วงเงินประมาณ 5 ล้านบาท เพื่อยกระดับมาตรฐานงานนำร่องของประเทศไทยสู่ระดับสากล

นอกจากนี้ ทางสำนักนำร่อง ยังเร่งพัฒนาศักยภาพผู้นำร่องไทยสู่มาตรฐานที่องค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (International Maritime Organization - IMO) เพื่อรองรับปริมาณเรือเข้า-ออกท่าเรือไทยที่เพิ่มขึ้น โดยสำนักนำร่องได้วางแผนพัฒนาบุคลากรทั้งสายปฏิบัติการและสายบริหาร ดังนี้1) อบรมหลักสูตร Ship Handling (Manned Model) ในต่างประเทศ ผู้นำร่องจะเข้ารับการฝึกหลักสูตร Ship Handling on Manned Models ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลของ IMO โดยเสนอใช้งบประมาณปี 2568 จำนวน 2.7 ล้านบาท เสริมมุมมองระดับนานาชาติ ผ่านเวที IMPA และ APMPA ผู้นำร่องฝ่ายบริหารจะเข้าร่วมการประชุมความปลอดภัยและมาตรฐานงานนำร่องกับ IMPA (International Maritime Pilot's Association) APMPA (Asia-Pacific Maritime Pilot's Forum) โดยในปี 2569 เตรียมเข้าร่วมประชุม IMPA ที่อินโดนีเซีย ในช่วงวันที่ 23-28 ต.ค. 2569 เป็นต้น ขณะเดียวกันยังมีแผนยกระดับศักยภาพผู้นำร่อง ให้สามารถดำเนินการนำร่องเรือขนาดใหญ่ประเภทเรือ Genting Dream มีขนาดความยาวที่ 335.33 เมตร ความกว้าง 39.7 มีลูกเรือ ประมาณ 2,000 คน รับนักท่องเที่ยว ได้ 3,000 คน เข้าเทียบท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต ประมาณเดือนละ2 ครั้ง ตลอดทั้งปี 2569 นับเป็นความมุ่งมั่น ของการยกระดับงานนำร่องไทยสู่มาตรฐานสากล เพื่อความปลอดภัยทางน้ำและเสริมศักยภาพการขนส่งของประเทศสู่มาตรฐานโลกที่ยั่งยืน