สำหรับในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะติดตามการกล่าวสุนทรพจน์ของผู้ว่าบีโอเจเพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับจังหวะการขึ้นดอกเบี้ยขณะที่เงินเฟ้อญี่ปุ่นยังอยู่ในระดับสูง โดยผู้ร่วมตลาดไม่แน่ใจว่าบีโอเจจะตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีนี้หรือไม่ นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่น่าสนใจ ได้แก่ ผลสำรวจ ISM ภาคการผลิตและบริการเดือนพ.ย. โดยดอลลาร์จะเผชิญแรงขายหากตัวเลขต่าง ๆ ยืนยันความเชื่อของนักลงทุนที่ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยลงอีกในเดือนธ.ค. นี้ ในขณะเดียวกัน ทิศทางค่าเงินหยวนจีนและราคาทองคำโลกยังมีอิทธิผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท
สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศ กระทรวงพาณิชย์รายงานยอดส่งออกเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 5.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังจากที่พุ่งขึ้น 19% ในเดือนก.ย. ขณะที่มูลค่านำเข้าเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 16.3% จากหมวดทองคำเป็นหลัก ส่งผลให้ไทยขาดดุลการค้า 3.44 พันล้านดอลลาร์ อีกทั้งข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาบ่งชี้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยอยู่ที่ 28.97 ล้านคนนับตั้งแต่ต้นปี ลดลง 7.2% ทางด้านธปท. รายงานไทยขาดดุลบัญชีเดินสะพัด 1.8 พันล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. พร้อมกล่าวว่าประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามต่อไป ได้แก่ ผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม มาตรการภาษีของสหรัฐฯ และการส่งออกของไทย รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล