1. มีน้ำรั่วในระบบท่อ
สาเหตุอันดับหนึ่งของปั๊มน้ำไม่ตัดคือมีน้ำรั่ว ทำให้แรงดันในระบบลดลง ปั๊มจึงทำงานตลอดเวลา
อาการที่สังเกตได้:
- ใช้น้ำปกติ แต่ปั๊มทำงานไม่หยุด
- ได้ยินเสียงไหลของน้ำแม้ปิดก๊อกหมดแล้ว
วิธีแก้ไข
- ตรวจจุดต่อท่อ โถสุขภัณฑ์ ชักโครก หรือสายฉีดชำระ
- ตรวจรอยซึมตามวาล์วและข้อต่อ
- หากหาไม่เจอ อาจต้องให้ช่างตรวจระบบท่อทั้งบ้าน
2. ถังแรงดัน (Pressure Tank) เสียหรือแรงดันไม่พอ
หากเป็นปั๊มน้ำแบบถังความดัน เมื่อแรงดันในถังไม่พอหรือแผ่นไดอะแฟรมเสื่อม ปั๊มจะตัดไม่ค่อยได้
สังเกตได้จาก:
- ปั๊มทำงานถี่ผิดปกติ
- เปิดน้ำแป๊บเดียวปั๊มติดทันที
วิธีแก้ไข
- ตรวจลมในถังแรงดัน เติมลมตามสเปก (ส่วนใหญ่ 20-30 psi)
- หากแผ่นยางเสื่อม ต้องเปลี่ยนใหม่หรือเปลี่ยนทั้งถัง
3. สวิตช์แรงดัน (Pressure Switch) มีปัญหา
เป็นชิ้นส่วนที่สั่งให้ปั๊มเปิด-ปิด หากชิ้นส่วนภายในเสื่อม ปั๊มจะทำงานต่อเนื่อง
สาเหตุที่พบบ่อย:
- หน้าสัมผัสไหม้
- สปริงอ่อนหรือเสื่อม
วิธีแก้ไข
- ปรับสปริงแรงดันเล็กน้อย
- หากอาการยังเดิม ควรเปลี่ยนสวิตช์ใหม่
4. แผงวงจร (PCB) ของปั๊มอัตโนมัติเสีย
ปั๊มน้ำรุ่นใหม่หลายรุ่นใช้แผงวงจรควบคุม เช่น ปั๊มแรงดันคงที่ ถ้าแผงควบคุมเสีย ปั๊มอาจไม่ตัดหรือไม่สั่งหยุดเลย
วิธีแก้ไข
- รีเซ็ตระบบ
- หากยังไม่หาย ให้ช่างตรวจและเปลี่ยนแผงวงจร
5. วาล์วกันย้อน (Check Valve) มีปัญหา
หากวาล์วกันย้อนปิดไม่สนิท น้ำจะไหลย้อนกลับ ทำให้ปั๊มต้องทำงานตลอดเพื่อรักษาแรงดัน
อาการที่พบ:
- ปั๊มกระตุก
- ปั๊มทำงานทั้งที่ไม่ได้ใช้น้ำ
วิธีแก้ไข
- ทำความสะอาดหรือเปลี่ยน Check Valve ใหม่
6. มีอากาศเข้าระบบ
ถ้ามีลมในท่อหรือในปั๊ม จะทำให้ปั๊มไม่สามารถสร้างแรงดันได้ ทำให้ไม่ยอมตัด
สาเหตุ เช่น:
- น้ำแห้ง
- ท่อทางดูดรั่ว
วิธีแก้ไข
- เติมน้ำเข้าตัวปั๊ม
- ตรวจรอยรั่วทางด้านดูดของปั๊ม
- ขันเข็มหรือรอยต่อให้แน่น
7. ไส้กรองอุดตัน (กรณีมีระบบกรองน้ำก่อนเข้าบ้าน)
ถ้ามีการติดตั้งไส้กรองก่อนเข้าปั๊ม เช่น PP, Carbon แล้วไส้กรองตัน แรงดันน้ำจะตก ปั๊มจึงไม่ตัด
วิธีแก้ไข
- เปลี่ยนไส้กรองใหม่
- ตรวจ Flow ว่าน้ำเข้าแรงเพียงพอ
สรุป
อาการปั๊มน้ำไม่ตัดมักเกิดจากแรงดันไม่พอ น้ำรั่ว หรืออุปกรณ์สั่งงานเสีย ซึ่งหลายอย่างสามารถตรวจสอบได้เอง แต่หากปัญหายังไม่หาย ควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเพื่อป้องกันความเสียหายต่อปั๊มและลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว